เศรษฐา สั่ง กองทัพอากาศ อพยพคนไทยในอิสราเอล หากน่านฟ้าเปิด

วันที่8ต.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ในโอกาสการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้น จะเดินทางเยือน บรูไนดารุสซาลาม ประเทศมาเลเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์ อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8 - 12 ตุลาคม 66 โดยมี นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.พันธภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับนายจักรพงษ์ และผู้บัญชาการทหารอากาศที่แจ้งถึงความพี้อมในการอพยพคนไทยจากประเทศอิสราเอล ภายหลังเกิดเหตุโจมตีอย่างหนัก 

นายเศรษฐากล่าวว่า ได้พูดคุยกับ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ฝากให้ดูแลคนไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอล และพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ได้รับรายงานเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการว่า คนไทยเสียชีวิต 1 คน และมีแรงงานที่เข้าใจว่าถูกกักตัวกักขัง 11 คน ยังไม่ได้รับรายงานว่าอยู่ตรงจุดไหนหรืออยู่ตรงส่วนไหนของประเทศอิสราเอล ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันมีการสู้รบและมีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน ในส่วนของกองทัพอากาศไทย ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่น่านฟ้าที่อิสราเอลยังปิด เนื่องจากมีการสู้รบ ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง ซึ่งจะมีคณะแพทย์ร่วมเดินทางไปด้วย เรื่องนี้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล เพื่อที่จะได้รายงานสถานการณ์ประจำวันให้ได้รับทราบ 

นายเศรษฐากล่าวว่า สถานการณ์ทุกคนจะต้องอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากถูกล็อกดาวน์ และมีสถานที่หลบภัย เนื่องจากสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ และเดินหน้าไปในทิศทางที่ไม่ดีขึ้น ส่วนการเจรจาช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมนั้น แม้ว่า จะยังไม่ทราบสถานที่อยู่ก็จะพยายามที่จะประสานงานเพราะถือว่าเป็นคนที่บริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ประเทศไทยก็มีเบอร์โทรศัพท์ที่จะให้ญาติติดต่อเข้ามา

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับแผนอพยพคนไทยถือว่ามีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมทันทีที่จะเดินทางไป เช่น กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบิน C-130 ในการอพยพคนไทยกลับบ้าน ได้แจ้งให้ทูตไทยประจำอิสราเอลว่า สามารถนำเครื่องบินไปจอดคอยไว้ได้ เพื่อความรวดเร็ว แต่ยังต้องพิจารณาเนื่องจากน่านฟ้ายังไม่เปิด แต่หากสถานการณ์ไม่ห้ามคนออกจากบ้านแต่น่านฟ้ายังไม่เปิดก็จะพิจารณาอีกครั้ง เพราะถือว่าลดระดับความรุนแรงลงมาแล้ว ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศและกองทัพอากาศจะมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกัน

ยืนยันว่า กังวลใจในระดับสูงสุด เครื่องบินกองทัพอากาศสามารถขนคนไทยได้จำนวน 423 คน ส่วนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลพบว่า มีจำนวน 25,000 คน และ 5,000 คนอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุรุนแรง มีความเป็นห่วงเพราะมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต โดยเฉพาะประชาชนคนไทยที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง จึงมีความไม่สบายใจ หลังจากนี้จะมีการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ญาติประสานงานติดต่อ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งด่วนให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ปฏิบัติหน้าที่ประสานงานในประเทศไทยต่อ แม้จะต้องร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรี และในช่วงบ่ายวันที่8ต.ค. จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ เพื่อที่ทุกคนจะได้สบายใจว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สูงสุด

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.