"ปานปรีย์"เผยนายกฯสั่งทอ.เตรียมเครื่องบินรับคนไทยในอิสราเอล

ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์อิสราเอล ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าคนไทย ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ขอให้รอการยืนยันขาดดระทรวงการต่างประทศอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันความเข้าใจที่สับสน

ดร.ปาปรีย์ ระบุว่า สถานการณ์ในอิสราเอลในเวลานี้ยังค่อยข้างสับสน ขณะนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอิสราเอล ยังอยู่ในหลุมหลบภัยยังไม่สามารถติดต่อและเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดได้  กระทรวงต่างประเทศกำลังเร่งติดต่อและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและนายกรัฐมนตรีได้สั่งการอย่างเร่งด่วน ให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินให้พร้อมสำหรับการอพยพคนไทยกลับประเทศหากมีความจำเป็น สามารถบินขึ้นได้ทันที

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ได้จัดเตรียมพร้อมเครื่องบินโดยสารพิสัยไกลแบบ Airbus A340 และเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 เพื่ออพยพคนไทยออกจากประเทศอิสราเอล ซึ่งได้แจ้งความพร้อมไปยัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนแผนการจะลงจอดสนามบินใดของประเทศอิสราเอล ทางกองทัพอากาศจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อลงจอดยังสนามบินที่มีความปลอดภัย และตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนไว้

เปิดภารกิจ Airbus A340-500 และC-130

สำหรับเครื่องบินแบบ Airbus A340-500 และเครื่องบินแบบ​ C-130 ซึ่งเคยใช้ในการอพยพคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศตุรกีและเหตุการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดาน  รวมถึงเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การพิจารณาความพร้อมของสนามบินปลายทาง การเตรียมการลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น โดยพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ทันทีเมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล

ขณะที่การเดินทางไปยังประเทศอิสราเอลนั้น จะต้องผ่านน่านฟ้าถึง 9 ประเทศ โดยใช้เวลาการเดินทาง 8 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 9 ชั่วโมง และจะต้องประสานไปยังประเทศปลายทางว่าได้เปิดน่านฟ้าให้ทางเครื่องได้ลงหรือไม่ หากไม่เปิดจะต้องไปลงที่ประเทศใกล้เคียงก่อนที่จะอพยพคนไทยกลับมา 

อิสราเอล ช่วยตรวจสอบ2คนไทยถูกจับตัว

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งว่าจากการประสานแรงงานไทยในพื้นที่ อาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน แต่เมื่อตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้และรับจะเร่งตรวจสอบให้ต่อไป  

ทั้งนี้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่พรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

เปิดหมายเลข สายด่วนติดต่อฉุกเฉิน

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และกระทรวงการต่างประเทศได้เปิดหมายเลขฉุกเฉินเพิ่มเติม คือ สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลข +972 546368150

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล สามารถติดต่อ Call center กรมการกงสุล ที่หมายเลข 02 5728442 (ตลอด 24 ชม.) หมายเลขฉุกเฉินกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศที่ หมายเลข 064-019-8530 064-019-8907 099-616-4786 (เปิดให้บริการวันที่ 8 ตุลาคม 2566) หรือที่หมายเลข 02 5751047-51 02 575 1053 (ในวันเวลาราชการ)

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.