'ก้าวไกล'ถามกลับ'เพื่อไทย'แก้ไขรธน.เพื่อหาคะแนนเสียงหรือไม่
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 22 ส.ค. นี้ ประธานรัฐสภาจะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองอภิปรายก่อนโหวตเลือกนายกฯ ได้ โดยพรรคก้าวไกลจำเป็นต้องอภิปรายยืนยันจุดยืนว่าจะโหวตด้วยเหตุผลและหลักการอย่างไร แต่จะไม่อภิปรายในส่วนของคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ
ส่วนจะวางตัว สส.คนใดในการอภิปรายนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค โดยก้าวไกลได้รับการจัดสรรเวลา 30 นาที ซึ่งจะแบ่งไว้สำหรับการอภิปราย และสำหรับการใช้สิทธิพาดพิงด้วย
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงญัตติการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ซ้ำ ว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประธานรัฐสภาจะไม่ให้มีการลงมติเรื่องนี้ โดยให้เหตุผล 2 ข้อหลักคือ ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 151 ระบุไว้ว่าให้ถือคำวินิจฉัยนั้นเป็นเด็ดขาด แต่พรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากสิ่งใดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มองว่าสภาจะอันตรายมาก เพราะการทำงานมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ โดยพรรคก้าวไกลไม่มีจุดประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อขอเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำ แต่ขอเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สภามีอำนาจในการแก้ไขความผิดพลาด โดยพรรคก้าวไกลจะนำมาหารือในที่ประชุมใหญ่ต่อไป
ส่วนกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบรับเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคก้าวไกลเชื่อว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอยู่แล้ว แต่เมื่อมีพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามา ก็ต้องกลับไปถามพรรคเพื่อไทยว่าตกลงแล้วจะเอาอย่างไร หรือเป็นการกล่าวอ้างว่าการแก้ไขจำนวนเป็นเพียงการหาคะแนนเสียง ไม่ใช่เป็นการให้คำมั่นสัญญา ในส่วนพรรคก้าวไกล ชัดเจนว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ต้องก้าวออกจาก คสช.
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.