ก.ตร.ไม่เลื่อนประชุม วัดใจนายกฯเศรษฐาเลือกผบ.ตร.คนที่14

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้นัดประชุมก.ตร.ครั้งที่ 10/2566 ในวันที่ 27ก.ย.2566 เวลา 13.30 น. โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
โดยมีวาระสำคัญที่เป็นประเด็นต้องจับตาเป็นกรณีพิเศษ คือการพิจารณา แต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่14 
 

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ย.2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เข้าพบ นายเศรษฐา เพื่อนำเสนอข้อมูลการประชุม ก.ตร. ซึ่งมีวาระการประชุมหลายเรื่องรวมทั้งวาระการประชุมพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้มีรายงานว่า การประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ จะมีการขอขยายระยะเวลาการพิจารณาแต่งตั้งนายพลระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบก.ประจำปี 2566 ออกไปอีก 1 เดือน

สำหรับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 77(1) ประกอบมาตรา78 (1) โดยอำนาจการพิจารณาคัดเลือกผบ.ตร.เป็นของนายกฯในฐานประธานคณะกรรมการก.ตร. ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจาณาคัดเลือก ให้คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน หรือ งานป้องกันปราบปราม ก่อนเสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

สำหรับพล.ต.อ.ผู้อยู่ในข่ายได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 หากไล่เลียงตามลำดับอาวุโส พบว่ามี 4 คน ประกอบด้วย 

อาวุโส ลำดับที่ 1 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (บิ๊กรอย)   เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 และ นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 40 เกษียณอายุราชการ ในปี 2567

อาวุโส ลำดับ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(บิ๊กโจ๊ก) นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 และ จบปริญญาตรีโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 47 เกษียณอายุราชการ ปี 2574 ถือได้ว่าอายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้เข้าชิงตำแหน่ง และเหลืออายุราชการมากที่สุด โดยจะเกษียณในปี 2574

อาวุโส ลำดับที่ 3 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(บิ๊กต่าย) เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 และปริญญาตรีจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) รุ่น 41 ครบวาระเกษียณอายุราชการ ในปี 2569

อาวุโส ลำดับ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(บิ๊กต่อ) จบระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสิงห์แดง รุ่นที่ 38 และปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ก่อนหน้านี้ ตัวเต็งที่คาดว่าจะได้เป็น ผบ.ตร. คนที่ 14 คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาวุโสลำดับที่ 4 แต่เมื่อเกิดเหตุคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิตที่บ้านกำนันนกที่จ.นครปฐม และพ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับ 2 ตำรวจทางหลวง ยิงตัวเองเสียชีวิตตัวเองในบ้านพัก เพราะเครียดที่เป็นคนพาพ.ต.ต.ศิวกรไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านกำนันนก จนเสียชีวิต

กระทั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อาวุโสลำดับที่ 4 เข้าทำสืบสวนสอบสวนจับกุมตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงมีการตั้งข้อหากับผู้เกี่ยวข้อง จนเกิดรอยร้าวบานปลาย ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจ PCT สนธิกำลัง ตำรวจสอท.เข้าตรวจค้นบ้านพักพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จากกรณีบุคคลใกล้ชิดพัวพันเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และให้รายงานทุกระยะสิบวัน

ประกอบกับก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะโยก พล.ต.อ.รอย อาวุโสอันดับ1 ออก ตร. ไปเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อถอยให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. โดยให้เหตุผลว่า พล.ต.อ.รอย จบ ตท.24 จะได้มาทำงานกับเพื่อนตท.24ที่ผงาดในกองทัพได้อย่างไร้รอยต่อ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าจะไม่ยอมย้ายไปไหน ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ความอาวุโสในลำดับ3 หากนับอายุราชการจะเกษียณในปี2569 เพราะเกิดในช่วงปลายปียังรอได้ 

ทั้ง4นายพลตำรวจเอก จึงยังมีรายชื่ออยู่ในโผได้รับการพิจารณาเป็นว่าที่ผบ.ตร. ทำให้นายกฯเศรษฐาในฐานะประธานก.ตร.และ ก.ตร. ทั้งคณะ จะพิจารณาเลือกผบ.ตร.คนใหม่ โดยยึดหลักการใด ระหว่าง “ความอาวุโส”หรือ“ผลงาน”หรือจะพิจารณาตัดสินใจเลือกโดยพิจาณาทั้งความอาวุโสและผลงานประกอบกัน.