'บิ๊กโจ๊ก'ชี้ถูกค้นบ้านไม่สุจริต การเมืองในสตช.ดิสเครดิต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีตำรวจชุด PCT ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมาโด นำหมายค้น เข้าขอตรวจค้นบ้านพักของตนเอง และมีลูกน้องคนสนิทถูกจับกุมหลายนาย หลังจากที่ได้ดูหมายค้นก็พบว่าเป็นหมายค้นที่ไม่สุจริต เนื่องจากลงหมายค้นว่า จะค้นบ้านเลขที่นี้แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าเป็นบ้านเลขที่ของใครและใครเป็นเจ้าของบ้าน
ตามปกติ หลักการออกหมายค้น จะต้องระบุว่าเจ้าของบ้านที่คนนั้นเป็นใครโดยบ้านทั้งห้าหลังที่ตำรวจมาค้นมีญาติของตนเป็นชื่อเจ้าของบ้านซึ่งเป็นคน จังหวัดสงขลา และเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงไม่ใช่เจ้าของบ้านที่เป็นพลเรือนคนอื่น โดยเชื่อว่าถ้าหากศาลรู้ว่า บ้านหลังที่จะค้นเป็นบ้านของ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะไม่ออกหมายให้แน่นอน
ดังนั้น ถ้าหากจะออกหมายค้นโดยที่ไม่มีชื่อเจ้าของบ้านแบบนี้เท่ากับว่าตำรวจสามารถไปค้นบ้านของคนอื่นได้โดยที่ไม่ต้องมีชื่อเจ้าของบ้านซึ่งมองว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้กังวลใจ เพราะถ้าหากศาลมีความประสงค์อยากจะค้นบ้านของตนเองก็ยืนยันที่จะให้คนด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่จะต้องให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ค้น ซึ่งจากการตรวจค้นที่ผ่านมาตนเองเป็นคนนำคนทั้งหมด 5 หลัง ปรากฏว่า ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มองว่าการจะตรวจค้นบ้านของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ควรมีหลักฐานที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงิน
ส่วนที่มาที่ไปของการค้นบ้านในวันนี้ เนื่องจากตนเองทำคดีใหญ่มาเยอะ กระทบกระทั่งหลายส่วน ซึ่งก็เตรียมความพร้อมในการรับแรงกระแทกอยู่แล้ว ในส่วนของตำรวจที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด ยอมรับว่าเป็นลูกน้องคนสนิทที่ทำงานร่วมกันมาหลายปี ตอนนี้ยังไม่ได้รับคำชี้แจงรอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ขอประกันตัวต่อศาล เสร็จแล้วก็ออกมาปฎิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า ตราบใดที่ยังไม่ถูกตัดสิน คนผู้นั้นก็ถือเป็นผู้บริสุทธิ์หลังจากนี้ก็มีหน้าที่ไปชี้แจงต่อศาลว่าเส้นทางการเงินมันเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่อย่างไร อยากให้มองคนละประเด็นว่า คนที่ถูกออกหมายจับ คือลูกน้องไม่ใช่ตน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานการเงินเส้นไหนที่เชื่อมโยงมาถึงตน เนื่องจาก ตนยืนยันว่าไม่เคยรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์
ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ยังหาคนสั่งการไม่ได้ แต่การดำเนินการของตำรวจในวันนี้มองว่าเกินกว่าเหตุ เพราะ มีการนำกำลังตำรวจเข้ามาดูมาด้วยและจากที่ตนทราบคือตระเตรียมการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เรื่องนี้ใครเป็นคนทำก็ต้องรับผิดชอบซึ่งตนขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้อยู่แล้วดังนั้น ตนได้ตั้งทีมทนายขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่ามี การประพฤติโดยมิชอบหรือไม่หากพบว่ามีก็จะดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านั้น
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะถึงเร็ว ๆ นี้ แล้วตัวเองถูกสกัดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ขอตอบ พร้อมบอกว่า อยากให้ไปดูเอาเองว่าตอนนี้มีเรื่องไหนที่มาแรงที่สุดในวงการตำรวจ อีกมุมหนึ่งมองว่า ตัวเองทำคดีมากมายและไปเกี่ยวข้องกับตำรวจเยอะ ก่อนหน้านี้ ก็ออกหมายจับตำรวจหลายคนและเข้าค้นหลายที่ ซึ่งก็ต้องรับแรงกดดันที่จะเกิดขึ้น
หลังจากนี้ไม่อยู่เฉย แต่ไม่ใช่การเช็คบิลย้อนหลัง เป็นเพียงการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ยอมรับว่าไม่ได้บั่นทอนจิตใจและไม่ได้รู้สึกกังวล พร้อมชี้แจงกับนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะไม่มีอะไรที่ผิด หลังจากมีกระแสให้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นนี้ และนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ติดต่อมา
ส่วนประเด็นที่มี คลิปตนกำลังร้องเพลงภายในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ที่ร่วมร้องเพลงกับมินนี่ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและพนันออนไลน์ ยอมรับว่าวันดังกล่าว เป็นงานเลี้ยงที่จัดให้ลูกน้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกน้องไปช่วยเหลือเรื่องงานศพพ่อ ทุกคนเหนื่อยมาก จึงได้จัดงานเลี้ยงให้แล้วคนในงานเลี้ยง ก็มีการเชิญบุคคลภายนอกมา ซึ่งคลิปที่ตนกำลังร้องเพลงอยู่นั้น ไม่ทราบเลยว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือใครและไม่ได้มีการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ส่วนกรณีที่มีลูกน้องคนสนิทถ่ายภาพโอบเอวผู้หญิงคนดังกล่าว ก็ต้องให้ลูกน้องตอบให้ได้ว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนและงานเลี้ยงนี้ก็จัดขึ้นเมื่อหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งคลิป และ ภาพที่มีการปล่อยออกมาเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตตน เพราะมีความบังเอิญมากเกินไปที่ช่วงเช้าบุกตรวจค้นบ้านของตนทั้งหมด 5 หลัง และช่วงบ่าย อดีตผู้การจังหวัดชลบุรีเอาผิดกับตน ที่ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“เราไม่มีสิทธิรับรู้ว่าลูกน้องไปทำอะไรบ้าง ถ้าทำไม่ดีก็ต้องดำเนินคดี และเราต้องยืนตัวตรงต้องเป็นแบบอย่างให้กับลูกน้องง นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัด นิ้วไหนร้ายก็เอาทิ้งไป และผมทราบว่ามีการไปตรวจเช็คเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ไปสนใจเพราะเป็นเรื่องของเด็กๆทำงานก็ว่าไป จะไปขัดแย้งหรือไม่ขัดแย้งก็ว่าไป แต่วันนี้ลามมาถึงผมและยืนยันว่าผมไม่ได้ท้อแท้วันนี้ยึดหลักทำงานให้ประชาชน ทำงานให้สังคมและยังออกมาทำงานตามปกติ การเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อนตำรวจเขาก็มีอุดมคติอยู่แล้ว อดทนต่อความเจ็บใจไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก เมื่อเราถูกหล่อหลวมมาเป็นแบบนี้ก็ต้องรับแรงเสียดทานให้ได้ ถ้าเราคิดจะอยู่นิ่งๆเฉยๆก็คงไม่ได้ไปทำอะไรเลย รออาวุโสไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.