ด่วน!!! ที่ประชุมเทคะแนนเลือกชัยธวัช ตุลาธนเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่

ในการประชุมวิสามัญของพรรคก้าวไกลที่อาคารไทยซัมมิท ในวาระการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันนี้ บรรยากาศในช่วงเช้าบรรดา สส.พรรคก้าวไกล สมาชิกพรรค

อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ  ที่มีชื่อเป็นโฆษกพรรคก้าวไกล ทยอยเดินทางเข้าเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง โดยมีนายพิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม

โดยในเวลา 10:05 น. ที่ประชุมใหญ่วิสามัญ พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ลุกขึ้นเสนอชื่อ “นายชัยธวัช ตุลาธน” เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยไม่มีสมาชิกในที่ประชุมท่านอื่นเสนอชื่อแข่ง จึงทำให้ที่ประชุมให้ลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ ให้นายชัยธวัช ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในทางลับ ผ่านการลงคะแนนด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์

จากนั้น เวลา 10:24 น. ประกาศผลการลงคะแนนว่า ที่ประชุมฯมีมติเห็นชอบ ให้นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเห็นชอบ 330 คะแนน ไม่เห็นชอบ 5 คะแนน

การเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่นั้น นอกจากนายพิธา เป็น ประธานคณะที่ปรึกษาพรรค แล้วมีรองหัวหน้าพรรค 4 คน ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล  นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม  นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคใต้ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคเหนือ นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร สัดส่วนปีกแรงงาน

ทั้งนี้เนื่องจากที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคภาคเหนือ เพื่อจะเป็นรับตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และต่อมาเมื่อการทำงานตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะต้องเป็นฝ่ายค้าน และต้องเป็นฝ่ายค้นเชิงรุก

ขณะที่ด้านนายพิธาเอง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้พรรคก้าวไกลได้เป็นผู้นำฝ่ายค้ายเชิงรุก เพื่อให้พรรคได้หาผู้นำฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องเป็น สส.ระหว่างที่จะต้องรอเรื่องเกี่ยวกับคดีความและยังต้องรอเวลาอยู่ จึงจำเป็นต้องเปิดประชุมวิสามัญ เพราะถือเป็นการปรับองค์กร เพื่อจะเดินต่อไป ทั้งเรื่องบุคลากรและข้อบังคับ