พิธา รับ ศิริกัญญา หนึ่งในตัวเต็ง หัวหน้าก้าวไกลควบผู้นำฝ่ายค้านหญิง
ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า การเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เป็นสำนึกของนักการเมือง คือในเรื่องของส่วนรวม ในบริบทการเมืองปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำฝ่ายค้าน จำเป็นที่จะต้องเป็นเรือหลักในนำทิศทางการอภิปรายงบประมาณ อภิปรายแนะนำรัฐบาล อภิปรายไม่ไว้วางใจ
แม้ตนเป็นสส.เข้าสภาไม่ได้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังสามารถทำงานในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล เผลอๆอาจจะเจอตนมากกว่าเดิม จะเดินหน้าเขย่าการเมืองไทย เขย่าปัญหาพี่น้องประชาชน ผ่านตะแกรงร่อนส่งต่อไปยังสส.พรรคก้าวไกลที่ยังอยู่ในสภา มีกำหนดการเดินทางไปทั่วประเทศ ทั้งจังหวัดที่มีสส.เขตและจังหวัดที่ได้คะแนนบัญชีรายชื่อเยอะ รวมถึงจะมีการเดินทางไปต่างประเทศ ที่จะไปบรรยายในมหาวิทยาลัยต่างๆ
เมื่อถามว่าการที่ลาออกจะไปเดินเกมนอกสภาฯเต็มตัวใช่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่ได้เป็นการเดินเกม แต่ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เราต้องการจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ จึงต้อง เอาส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว สามารถทำงานได้ โดยที่ไม่ต้องมีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งนี้จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคและเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ วันที่ 24 กันยายน
ถามว่าคนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน นายพิธากล่าวว่ามี 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือขึ้นอยู่กับการประชุมวิสามัญพรรค อีกประเด็นขึ้นอยู่กับคนที่ถูกเสนอชื่อจะยอมเป็นหรือไม่ มีคนที่เหมาะสม 4-5 คน พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรค ยอมรับว่า นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อถามว่า เป็นไปได้ใช่หรือไม่ว่าจะเป็นนางสาวศิริกัญญา จะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านหญิงคนแรก นายพิธา กล่าวว่า เป็นความเห็นตนคนเดียว รอดูต่อไปมีเวลาอีก 7-8 วัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอาบู๊หรือจะเอาบุ๋น ไม่ได้กังวลใจอะไร พรรคเราไม่ใช่พรรคที่มีเจ้าของ หรือสืบทอดอำนาจได้ มีข้อบังคับพรรคมีกฎหมายควบคุมอยู่
นายพิธากล่าวถึงกระแสข่าวที่เตรียมจะขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไว้ และได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านด้วย นายพิธา กล่าวว่า ต้อง รอหลังการประชุมวิสามัญของพรรค เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะต้องหารือกับนายปดิพัทธ์ ต้องฟังความคิดเห็นจากนายปดิพัทธ์ด้วย
เมื่อถามว่า ตามข้อกฎหมายสามารถเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่ารัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนั้น
ถามว่า การที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพราะไม่มั่นใจ คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีถือหุ้นสื่อใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า จะโยงแบบนั้นคงไม่เกี่ยวข้องกัน ยังมั่นใจเกิน100 ที่จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนเรื่องของคดีความก็ต้องรอกระบวนการที่ขับเคลื่อนไป ฝ่ายกฎหมายของเราก็ทำงานอย่างเต็มที่ คิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะดูคำวินิจฉัยภายในของกกต.
นายพิธา หันไปดูป้ายฉากหลังกกต.พร้อมหัวเราะและกล่าวไปด้วยว่า นี่ก็ตลก เรามาแถลงอยู่หน้างานของกกต. คิดว่า กระบวนการของกกต.ที่ได้ทำมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ itv ทั้งวัตถุประสงค์ รายได้ และสัมปทาน ถ้าบริสุทธิ์ยุติธรรม ก็เชื่อมั่นทั้งสองเรื่องทั้งเรื่องที่จะได้กลับมาเป็นสส. และเรื่องของการขับเคลื่อนพรรคภายใต้หัวหน้าพรรคคนใหม่
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.