เรืองไกร ค้าน จ่ายเงินเดือนข้าราชการ2รอบ ผิดประเพณี กระทบระบบการเงิน
ข้อสั่งการนายกฯ ในที่ประชุมครม. การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือน
แม้เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นมติครม. เป็นข้อสั่งการจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ดูแล้ว น่าจะสร้างความยุ่งยากพอสมควร ปกติเงินเดือนมาจากการเก็บภาษี ซึ่งภาษีที่มาของรายได้จาก 3 กรมหลัก โดยเฉพาะกรมสรรพากร มีทั้งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะเข้ามาทุกวันที่15 วันนี้จะไปเก็บภาษีเป็นสองรอบหรือ จะไปเอาเงินจากที่ไหน อันนี้คิดขาออก เมื่อคิดคำนวนภาษีหัก ณ ที่จ่าย ปกติเงินเดือนคูณ12 เป็นรายได้ทั้งปี มาคำนวนแล้วหัก ต่อไปต้องคูณ24 หรือไม่ แม้อธิบดีกรมบัญชีกลาง เมื่อผู้ใหญ่สั่งการก็บอก ดีครับนาย สบายครับผม ก็ว่ากันไป
เอาง่ายๆ สั่งบริษัทแสนสิริ ในเครือ ให้จ่ายเดือนละ 2 ครั้ง แล้วค่อยมาทดลองกับข้าราชการ ซึ่งมีทุกหน่วยทั้ง ศาล ทหาร ตำรวจ พลเรือน ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว จะจ่ายอย่างไร แต่ปัญหาคือ กระแสเงินสดที่เข้ามามันพันรอบที่จะจ่ายทุกๆครึ่งเทอมหรือไม่ แล้วเงินที่สำรองไว้ เขาก็ต้องเปลี่ยน
ไม่ได้เรียกว่าเงินเดือนแล้ว จะเป็นเงินรายปักษ์ 2อาทิตย์ออกที ไม่ใช่เงินเดือน แต่เป็นเงินรายปักษ์ คิดอะไรประหลาดๆ มันผิดประเพณีเขา มีทั้ง เงินเดือน เงินประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี สส. สว. เงินขององคมนตรี จะกระทบอีรุงตุงนังไปหมด
คิดอะไรให้รอบครอบ ถ้าเปิดฉากมาขึ้นชกมวยยกแรก แล้วการ์ดตกอย่างนี้ จะมีปัญหา น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล เอาข่าวนี้มา อาจจะไม่มีความรู้ เอาข้อสั่งการในครม.มาแล้วแถลงเลย เมื่อแถลงแล้วก็ออกความเห็นเลยกฎหมายไปอีก เหมือนเรื่องรัฐบาลเป็นรัฏฐาธิปัตย์ แปลว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ยึดอำนาจมาจาก MOU ที่เคยลงนามกันไว้ 8 พรรคหรือไม่ ถ้าไม่รู้ ไปเรียนรู้ก่อน นายกฯต้องทบทวน ใช้คนอย่างนี้ถูกกับงานหรือไม่ ถ้าไม่รู้ ก็ต้องไปเทรนไปเรียนมาก่อน ขอฝากติงไปหน่อย
ควรมีการสอบถามความต้องการจากข้าราชการทั้งหมดเสียก่อนหรือไม่
ก็ควรถาม แต่ก่อนถามต้องเข้าใจกฎกติกาที่มีอยู่ก่อน กติกาที่เขาเคยปฏิบัติ กฎระเบียบคืออะไร กฎหมายเงินเดือน กฎหมายเงินประจำตำแหน่ง 2-3 ช็อตแล้ว ที่ทำงานไม่เข้าเป้า เช่น นโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เขาบอกให้เขียนแจงที่มาของตัวเลข แต่กลายเป็นไม่แจงเลย
ในเอกสารแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาฯ อ้างไว้ทุกมาตรา แต่ไม่พูดถึงมาตรา162เลย ทั้งที่เป็นแม่บท อันนี้เป็นแม่บท รัฐธรรมนูญ2560 ระบุไว้ชัด ต้องแจงที่มาของงบประมาณ แตกต่างจากรัฐธรรมนูญ2550 ไม่ได้เขียนไว้ให้ต้องแสดงแหล่งที่มาของเงิน ในสายตาผมมองแล้วยังไม่ผ่าน ทีมงานก็อ่อน ต้องไปปรับปรุงหน่อย
เป็นการแก้ปัญหา ระบบการเงินการคลังรัฐบาลเองหรือไม่ เลยต้องหมุนมาจ่ายแบบนี้
รายได้หลักเราดูที่ Vat ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ส่งวันที่7 ส่วน Vat เป็นหลักในการทำตัวเลขส่งวันที่15 กว่าจะจัด คืนเงิน ถึงมาจ่ายเงินเดือนหน่วยงานประมาณวันที่30 หรือก่อนสิ้นเดือน2-3วัน การจ่ายเงินลักษณะนี้คือ กระแสเงินสดรับ กระแสเงินสดจ่าย จะจ่ายหนี้ ต้นเงินกู้ ดอก ในงบประมาณรายจ่ายกว่า 3ล้านล้าน ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือน ถ้ามาแบ่ง จะหารายได้ที่ไหนมาแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ยกเว้นให้เขาส่ง Vat เดือนละ2หน 15 ที 30 ที ก็ยุ่ง อีรุงตุงนัง คิดแค่กระแสเงินสดรับ เงินสดจ่ายก็น่าปวดหัวพอสมควร
ขอถามกระทรวงการคลัง นายกฯก็เป็นรัฐมนตรีเอง ก็ถาม จากที่ลูกค้าแสนสิริ เคยผ่อนกันเป็นเดือนๆ แต่ต่อไป สมมุติ ในเมื่อบริษัทจ่ายเงินเดือนละ2หน ให้ลูกค้าผ่อนมาเดือนละ2หนด้วยหรือไม่ รับจ่ายต้องสอดรับกัน ไม่เช่นนั้น ต้นทุนดอกเบี้ยก็ขึ้นมา ถ้าไม่พอ กระแสเงินสดรับไม่พอ ก็ต้องกู้ ต้นทุนการเงิน เงินกู้ก็ต้องเพิ่มขึ้น ต้องไปขยายเพดานใช้วงเงิน เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ เสียงต่อต้านก็มี
เงินคงคลังเพียงพอหรือไม่ ก็บอกอยู่ว่า สถานะไม่ดี หนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็สูง ถ้าเรามีเงินถุงเงินถัง เงินเกินดุล งบประมาณเกินดุล อยากจ่ายอะไรก็จ่ายไป แต่ตอนนี้ รัฐบาลก็บอกมีปัญหาเยอะแยะ จะมาสร้างให้เกิดปัญหาใหม่ทำไม ทำไมไม่จ่ายเป็นรายสัปดาห์ไปเลย ลูกจ้างรายวันยังจดเป็นวันๆ มาจ่ายทุกสิ้นเดือน เพราะเงินหมุนไม่ทัน ไม่เข้าใจวิธีคิดของเขา เรียนบัญชีจบตรี โท ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ เป็นไอเดียใหม่หรืออย่างไร พวกรัฐมนตรีคลังเงาในพรรคก้าวไกลเก่งๆ ศิริกัญญา ตันสกุล น่าจะมาไล่บี้ได้ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ก็จบบัญชีธรรมศาสตร์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เกียรตินิยม จบการเงิน ธรรมศาสตร์ ควรจะออกมาให้ความคิดเห็นบ้างว่า แบบนี้ถูกต้องหรือไม่
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.