ครม.สัญจรเชียงใหม่เคาะ1.9 หมื่นล.ฟื้นเชียงใหม่-เชียงรายหลังน้ำท่วมลด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า
ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอโครงการเร่งด่วนและระยะยาวของ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย วงเงิน 19,282 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนใน จ.เชียงใหม่และเชียงราย โดย จ.เชียงใหม่ของบประมาณในการแก้ไขถนนที่พังจากอุทกภัย

ส่วนที่ จ.เชียงราย เป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า สาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเยียวยาให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ จ.เชียงใหม่มีโครงการระยะยาวด้านการพัฒนาซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัย วงเงินประมาณ 5,200 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้เป็นแนวทางของรัฐบาลว่าหากมีปีหน้ามีปริมาณน้ำฝนมากจนเกิดอุทกภัยจะได้แก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากนี้ นายจิรายุ ระบุอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งประเทศ ด้วยการลดภาระด้านภาษีเพื่อซ่อมแซมบ้าน รถที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งประเทศ ของกระทรวงการคลัง ดังนี้


1.จัดสรรวงเงินจำนวน 50,000 ล้านบาท ภายใต้โต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Son Loan) GSB Boost Un เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถามการณ์อุทกภัย โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้ง ผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดขรมาคารออมสินสนสนุนแหล่งแหล่งเงินทุน
ดอกเบี้ยต่ำให้แก่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งธนาคารพาณิชข์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจในอัตราคอกเบี้ย
ร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระอะเวลา 2 ปี เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ที่ใต้ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในอัตรา
ดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี วงเงินต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน และ
ภายได้วงเงินดังกล่าวธนาคารออมสินสามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยโดยตรง
ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดียวกัน ทั้งนี้ สามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567

2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMIEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ปี 2567 ภายได้โครงการ PGS 11 ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสอ.) เพื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยที่ใด้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้ได้รับสินเชื่อได้อย่างอเพียงพอและช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ โดย บสย. จะจ่ายค่าประกันชดเชยดลอด

โครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมเฉลี่ยร้อยละ 30 โดยรัฐบาลจะจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนผู้ประกอบการใน 3 ปีแรก หลังจากนั้น บสย. คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการร้อยละ 1.25 ต่อปี
ระขะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี รับคำขอค้ำประกันถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.