'สุวิช'ยันรฟท.เป็นเจ้าของที่เขากระโดง มีใบเสร็จจ่ายค่ารังวัดกรมที่ดิน
นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) กล่าวในรายการ คมชัดลึก ออกอากาศทางเนชั่นทีวี22 ว่า กรมที่ดินยกมาเพียงแค่ข้อความเดียว ที่ให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 61 หากไปตรวจสอบตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุว่า ให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลฎีกา
ขอย้อนกลับไปก่อนมีมติไม่เพิกถอนสิทธิที่พิพาทเขากระโดง ในสมัยรัฐมนตรีมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่มีนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การที่กรมที่ดิน ไม่สามารถดำเนินการเพิกถอนสิทธิในที่เขากระโดงได้ เนื่องจากการรถไฟฯสังกัดกระทรวงคมนาคม ไม่ให้ความร่วมมือชี้เขตแนว จึงกลายเป็นว่า การไม่โต้แย้งเท่ากับการรถไฟฯไปยอมรับ สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
ต่อมาการรถไฟฯไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองก็มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการฯตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 เพื่อสอบข้อเท็จจริง พิสูจน์ เอกสารต่างๆ ทว่าก่อนลงมติ มีประเด็นต่อว่า ต้องมีการรังวัด กรมที่ดินได้แจ้งให้การถไฟฯก็ ดำเนินจ่ายค่ารังวัดเป็นจำนวนเงิน1,296,320บาท และได้จ่ายเงินให้กับกรมทีดิน จนนำไปสู่การตรวจร่วมกับคณะอนุกรรมการฯตามคำสั่งแต่งตั้งของคณะกรรมการฯ ตามมาตรา61 มีการไปชี้เขตแนวตามเงื่อนไข
แต่เมื่อถึงเวลาการประชุมก่อนจะมีมติไม่มีการนำพื้นที่การรังวัดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯตามมาตรา61 กลายเป็นว่า การรถไฟไม่สามารถชี้แนวเขตหรือพิสูจน์เอกสารสิทธิใดๆได้
"เรื่องนี้ผมมองว่าตลก การรถไฟฯดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมาย เสียเงินค่ารังวัดก็แล้ว ตรวจร่วมกันก็ทำ แต่ข้อมูลการตรวจร่วมพิสูจน์เอกสารสิทธิไม่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯตามมาตรา61 กลายเป็นว่าการรถไฟฯไม่มีเอกสารสิทธิในการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดิน" นายสุวิช กล่าว
ด้าน นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชัน กล่าวว่า การที่คณะกรรมการฯ มาตรา61 ไม่นำผลรังวัดที่ดินซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการฯ ถือเป็นใบเสร็จ โดยเฉพาะ"เงินหลวง"ที่การรถไฟฯจ่ายไปเป็นค่ารังวัดเพื่อพิสูจน์สิทธิ เท่ากับมีการโกหกและมี"ไอ้โม่ง" ไม่ยอมนำผลการรังวัดที่ดินเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการฯตามมาตรา 61 ทำให้ถือโอกาสสรุปอ้างว่าการรถไฟฯไม่มีหลักฐานยืนยันสิทธิ์
"ผลการตรวจสอบ ข้อมูลการรังวัดที่ดิน ต้องมีการนำเข้าสู่ คณะกรรมการฯตามมาตรา 61เพราะถือเป็นประเด็นสำคัญ ในการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินของการรถไฟฯ คำสั่งศาลปกครองกลางก็ยืนยันชัดเจนว่า ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา สรุปกรมที่ดินยื้อไปมา ไปออกโฉนดได้อย่างไร ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ออกโฉนดทับที่การรถไฟฯ"นายวีระ กล่าว
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นายสุวิช ศุมานนท์ ประธาน ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เพื่อขอให้ทบทวนมติของคณะกรรมการที่ให้ยุติการเพิกถอนเอกสารสิทธิพื้นที่เขากระโดงของการถไฟฯ
สาระสำคัญของหนังสือฉบับนี้ มีเนื้อหาระบุว่า ตามคำพิพากษาศาลปกครอง พิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณามีมติเอกฉันท์ไม่เพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารสิทธิที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยอ้างการรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานชัดเจนในการเป็นเจ้าของพื้นที่เขากระโดง และให้ยุติเรื่องในกรณีนั้น
สพ.รฟ. ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทาน พื้นที่เขากระโดงให้กรมรถไฟหลวง และให้การรถไฟฯ ใช้ทรัพยากรไม้และหินในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ไปสร้างทางรถไฟ ระหว่างนครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้มีพระราชบัญญัติการจัดวางรางรถไฟแลทางหลวง พ.ศ.2464 ให้แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทางรถไฟและพื้นที่ก่อสร้างอื่น ๆ โดยมิให้ผู้ใดมาครอบครองที่ดินของการรถไฟฯ ได้ เสมือนเป็นที่ราชพัสดุ
ต่อมาได้มีประชาชนบุกรุกเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟฯ โดยที่การรถไฟฯ มิได้วางเฉย ได้มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ตรวจสอบตลอดมา ดังปี พ.ศ. 2509 จนมีปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินเขากระโดง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา และมีบางรายนำที่ดินของการรถไฟฯ ไปออกเอกสารสิทธิ จนนำไปสู่การฟ้องร้องระหว่างประชาชนกับการรถไฟฯ จึงมีการนำเรื่องให้กฤษฎีกาตีความ
สรุปให้ความเห็นว่า พื้นที่เขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ และมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ก็ได้วินิจฉัยชี้ขาดพื้นที่เขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ และมีผู้กระทำความผิดทางอาญาหลายคนแต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากคดีหมดอายุความ
ต่อมา ได้มีคำตัดสินคำพิพากษา ของศาลฎีกา 842-876/2560, คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561, คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563, คำพิพากษาศาลปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ต่างพิพากษาให้ พื้นที่เขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ เป็นของการรถไฟฯ
ดังนั้น เอกสารสิทธิที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟฯ จึงเป็นเอกสารสิทธิที่ออกมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะขัดต่อพระราชบัญญัติการจัดวางรางแลทางหลวง พ.ศ.2464 การรถไฟฯ จึงนำสาเหตุนี้ฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้มีการสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกมาโดยมิชอบ
ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขา กระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯ ตามคำพิพากษาอ้างถึง ข้อ 4,5 และข้อ 6
คณะกรรมการตามมาตรา 61 ได้แต่งตั้งอนุกรรมการในตรวจสอบ รังวัด เพื่อกำหนดแนวเขตที่ดินแต่ละแปลงและรายงานให้คณะกรรมการตามมาตรา 61 ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิแต่ละราย แต่คณะกรรมการตามมาตรา 61 มิได้ปฏิบัติตามพิพากษาศาลฎีกา ถือว่าที่สุด แต่กลับมีมติเอกฉันท์ไม่เพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารสิทธิที่ออกทับที่ดินของการรถไฟฯ นั้นโดยมีผลกระทบต่อสถานภาพสิทธิของการรถไฟฯ
พื้นที่เขากระโดงได้ผ่านการพิสูจน์สิทธิชัดเจนแล้วว่าพื้นที่เขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ เป็นของการรถไฟฯ ดังจะดู รายละเอียดได้จากหลักฐานการพิพากษาของศาลฎีกาและศาลอุธรณ์ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบแห่งชาติ และความเห็นของกฤษฎีกาและแผนที่พื้นที่เขากระโดงของการรถไฟนั้น ได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2462
รวมทั้งกำหนดกรรมสิทธิชัดเจนตามพระราชบัญญัติการจัดวางรางแลทางรถไฟ และแผนที่ทหาร จึงไม่จำเป็นที่ต้องนำมาพิสูจน์สิทธิอีก เพียงแต่คณะกรรมการตรวจสอบดูรายละเอียดเป็นรายแปลง เพื่อนำไปสู่การเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ถูกต้อง และการที่มติคณะกรรมการตามมาตรา 61 มีมติดังกล่าวนั้น
จึงเป็นการละเมิดคำตัดสินของศาลฎีกาและขัดต่อพระราชโองการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่ง กรมที่ดินอยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้ท่านมีบัญชาให้มีการแก้ไขให้ถูกต้องตามคำพิพากษาให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อโปรดสั่งการให้ทบทวนมติคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.