รฟท.ค้านกรมที่ดินปมเขากระโดง"สุริยะ"ลั่นตารางวาเดียวก็เสียไม่ได้

กรณีคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 ไม่เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  
ต่อมาวันที่ 22 ต.ค.2567 นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ได้ทำหนังสือแจ้งการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยเนื้อหาสรุปว่าเนื่องจากการรถไฟไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟ 

รฟท.ยื่นศาลปกครองกลางค้านกรมที่ดิน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ออกมาแสดงท่าทีว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ แม้กระทั่ง 1 ตารางวาก็เสียไปไม่ได้ จึงให้การรถไฟฯ ไปตรวจสอบดู ซึ่งเมื่อวานนี้ (10พ.ย.67) การรถไฟฯ ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งเหตุว่า อธิบดีกรมที่ดิน ปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วนตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาศาลปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 75/3 โดยขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวน กำหนดวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของการรถไฟฯ จึงเห็นควรแถลงข้อเท็จจริงให้พิจารณาในประเด็นคำสั่งดังกล่าวต่อไป

รฟท.คัดค้านหนังสือกรมที่ดิน ไม่อยากให้โยงการเมือง

วันนี้ (11พ.ย.67) ผู้ว่าการ รฟท.ได้ทำหนังสือยื่นไปยังกรมที่ดิน เพื่อคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในข้อกฎหมายระบุว่า ต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.67) ขณะเดียวกัน จะดำเนินการอย่างไรต่อไปให้ศึกษาข้อกฎหมาย

โดย รฟท.จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อสามารถฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดิน 900 กว่าแปลง ซึ่งขั้นตอนนี้ ยังพอมีเวลาที่จะดำเนินการ ส่วนปัญหาที่ดินเขากระโดงที่ยืดเยื้อมานานต้องทำตามกฎหมายไม่ดำเนินการล่าช้าอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นปัญหาในระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ โดยกรมที่ดินให้เหตุผลว่า การรถไฟฯ มีหลักฐานไม่เพียงพอ ขณะที่การรถไฟฯ เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ จึงได้ดำเนินการไป ไม่ต้องการให้ขยายผลเรื่องนี้โยงเป็นประเด็นทางการเมือง อยากให้ดำเนินไปตามกระบวนการ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้แจงมาแบบนี้ แต่การรถไฟฯ เห็นว่าไม่ใช่ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ของการรถไฟฯ

อนุทินให้ว่ากันตามเนื้อผ้า เป็นไปตามกฎหมาย 

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าปมที่ดินเขากระโดงทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายให้ว่ากันตามเนื้อผ้าและกฎระเบียบไม่มีแทรกแซงไม่มีความกดดันใดๆนี่คือสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ หากจะเอาให้ชัดเจนต้องไปถามคนที่ทำเรื่องนี้ว่ามีแรงกดดันอะไรลงไปหรือเปล่า

นายอนุทินยังชี้แจงถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลาออกของอธิบดีกรมที่ดินมาเชื่อมโยงกับคดีเขากระโดงว่า เขาต้องการไปดูแลสุขภาพของภรรยา และตอนที่เข้ามากระทรวงใหม่ๆ เป็นคนขอให้ยับยั้งการลาออก 2-3 รอบ แต่ท่านก็อธิบายถึงความจำเป็น และท่านก็มาทำงานให้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

ยืนยันด้วยนิสัยส่วนตัว "ไม่มีช่วยเพื่อน"

ส่วนที่สำนักข่าวมาตีข่าวว่าอธิบดีทนไม่ไหวจนต้องลาออกยืนยันว่ามันไม่ใช่ การเสนอข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และคณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องที่ดินเขากระโดงแต่งตั้งขึ้นก่อนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมาในเดือนกุมภาพันธ์ 66 แต่คำพิพากษามีมาตั้งแต่ปี’60-61 ก่อนเข้ารับตำแหน่ง 6 ปี คงไม่มีใครคิดว่าจะมารับตำแหน่งด้วยนิสัยของและวิธีการทำงาน แต่ไหนแต่ไรมา เพื่อนถึงน้อยจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีคำว่าช่วยเพื่อน มาอยู่ตรงนี้ช่วยไม่ได้

นายอนุทินยืนยันว่า กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งมีคำสั่งของศาลปกครอง ให้ร่วมกันตั้งกับทางการรถไฟ แต่คณะกรรมการชุดนี้ตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 66 ขณะนั้นเป็น รมว.สาธารณสุขคงมาสั่งการอะไรในกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ และไม่ว่าผลการตัดสินนั้นจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ 

ไม่มีช่องไหนที่จะมาบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสามารถเพิกถอน หรือไม่เพิกถอน เพราะไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรี เรื่องมันจบที่กรม จบที่คำสั่งศาล หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่ 5 พันกว่าไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ