"ชาญชัย"กางหลักฐาน ดอนเมืองโทลล์เวย์ผิดสัญญา ขึ้นค่าผ่านทางไม่ได้

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 9.00 น. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ตนเคยแถลงไปก่อนหน้านี้ว่า บริษัททางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ควรขึ้นราคาค่าผ่านทางเพราะสัญญาที่ทำกับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมควรต้องถูกยกเลิก จะเก็บค่าผ่านทางไม่ได้แล้วนั้นว่า เรื่องนี้มีที่มา และมีสาเหตุสืบเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเป็นเรื่องการทำผิดสัญญาในข้อตกลงกับรัฐบาลไทย โดยในปี 2549 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี บริษัททางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ (DMT) เป็นบริษัทผู้รับสัมปทานสร้างดอนเมืองโทลเวย์ ได้ขอแก้ไขสัญญากับรัฐ
 

โดยอ้างว่า รัฐได้ทำผิดสัญญาในการย้ายสนามบินดอนเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ และมีเหตุผลอีก 9 ข้อ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบขาดทุน จึงร้องขอให้มีการขยายเวลาสัมปทานในการเก็บค่าผ่านทางเพิ่มอีก 27 ปี ในวันที่ 12 กันยายน 2550 และก่อนที่กระทรวงคมนาคมในขณะนั้นจะดำเนินการต่อสัญญาให้ บริษัทวอเตอร์ บราวน์ หรือ บริษัท Water Bau AG (WBAG) สัญชาติเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทที่ DMT ว่าจ้างให้เป็นผู้สร้างทางยกระดับดอนเมืองฯ แต่เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ กลับไม่มีเงินจ่ายให้ จึงให้บริษัท WBAG ถือหุ้นบางส่วนในบริษัท DMT 

ทำให้บริษัท WBAG กลายเป็นหุ้นส่วนของ DMT และถือว่าบริษัท WBAG ได้กลายเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลไทยไปในตัวด้วย และทำให้ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันฟ้องอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ จนเวลาล่วงมาถึงปี 2554 เป็นเหตุให้มีการยึดเครื่องบินพระที่นั่ง ในเดือนกรกฎาคม 2554 

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุยึดเครื่องบินพระที่นั่ง บริษัททางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ (DMT) เคยไปขอเยียวยาจากรัฐบาลไทย โดยให้โอกาสบริษัท DMT แก้ไขสัญญา ด้วยการให้ต่อสัญญาสัมปทานเพิ่มอีก 27 ปี และสามารถขึ้นค่าผ่านทางได้เองทุก ๆ 5 ปี จากเดิมค่าผ่านทาง 40 บาท ปัจจุบันเพิ่มเป็น 115 บาท และจะเพิ่มอีก 130 บาทต่อคัน ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย และต้องการชี้แจงให้พี่น้องประชาชนคนไทยทราบว่า สัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะมานานแล้ว

เพราะใน ‘บันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวง ในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง-ดอนเมือง วันที่ 21 สิงหาคม 2532 ฉบับที่ 3/2550 วันที่ 12 กันยายน 2550’ (เอกสารประกอบ 1)ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัท DMT ข้อที่ 6 ระบุชัดเจนว่า เมื่อรัฐบาลไทยเยียวยาในเหตุผล 9 ข้อที่ บริษัท DMT ยื่นท้วงมา โดยรัฐต่อสัญญาสัมปทานให้เพิ่มอีก 27 ปี ในวรรคท้ายของข้อที่ 6 (เอกสารประกอบ 2) ระบุชัดเจนว่า ถ้ามีการลงนามต่อขยายสัญญาให้แล้ว บริษัท DMT ต้องดำเนินการถอนคำฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทย หรือคำฟ้องร้องในศาลใด ๆ ก็แล้วแต่ ต้องถอนคำฟ้องทั้งหมดภายใน 30 วัน หลังการลงนามต่อขยายสัญญาให้เก็บค่าผ่านทางได้อีก 27 ปี หากไม่ถอนคำฟ้องให้ถือว่า กรมทางหลวงมีสิทธิ์ยกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ได้ 

“สิ่งนี้เป็นหลักฐานที่ผมจะโหลดลงในสื่อออนไลน์เพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์สามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป” นายชาญชัย กล่าว 

ประเด็นที่มีความสลับซับซ้อนที่มีความฉ้อฉลเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ หลังจากวันที่ 3 ธันวาคม 2549 ทั้งสองบริษัท คือ บริษัท DMT และบริษัท WBAG ได้ทำสัญญาลับระหว่างกัน (ตามเอกสารประกอบ 3 ประทับตรา “ลับที่สุด” 3 ธันวาคม 2549) ว่า จะไปฟ้องอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ โดยบริษัท DMT ต้องจ่ายเงิน 50% ในการให้บริษัท WBAG เป็นผู้ฟ้องร้องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ อีกทั้งในสัญญานี้ระบุด้วยว่า ถ้ามีการต่ออายุสัมปทานไปอีก 27 ปี ที่อยู่ในข้อที่ 6 และข้อที่ 9 บริษัท DMT ต้องจ่ายเงินให้บริษัท WBAG อีกปีละ 5แสนยูโรในแต่ละปีที่ได้รับต่อสัมปทาน (เอกสารประกอบ 4 ประทับตราลับที่สุด ขีดไฮไลท์สีชมพู ข้อ9) 

“นี่เป็นหลักฐาน ชี้ให้เห็นถึงการวางแผนของ 2 บริษัทเอกชน คู่สัญญาตั้งแต่เริ่มแรก ก่อนที่จะทำเรื่องร้องขอต่อสัญญาขยายสัมปทานกับรัฐบาลไทย ดอนเมือง แม้ต่อสัญญาขยายเวลาเก็บค่าผ่านทางให้แล้ว ก็ยังไม่ถอนคำร้องรัฐบาลไทยต่ออนุญาโต ฯ ไม่ทำแล้ว ยังมาเสนอขอให้กระทรวงการคมนาคมโดยบอกว่า บริษัท DMT ซื้อหุ้นคืนจาก บริษัท WBAG ของเยอรมันหมดแล้ว ถ้าจะขอให้ไปเคลียร์คดี ทางบริษัท DMT มาขอค่าเคลียร์คดีกับทางกระทรวงคมนาคม อีก 500 ล้านบาท (เอกสาร ประกอบ 5 วันที่ 21 ตุลาคม 2551 ขีดไฮไลท์สีชมพู) ทั้งที่กระทรวงการคลังที่เป็นตัวแทนรัฐ ก็ถือหุ้นในบริษัท DMT อีกด้วย อยู่ในเอกสารที่กระทรวงคมนาคมส่งมาให้ผมในขณะที่เป็น สส. และเป็นรองประธาน กมธ.ปปช. สภาฯ ที่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้” นายชาญชัย กล่าว 
 
มีข้อความปรากฏในเอกสารลับ ฉบับที่ 3 ธันวาคม 2549 ระหว่างนายสมบัติ พานิชชีวะ บริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ ร่วมกับบริษัท WBAG ร่วมกันช่วยเหลือดำเนินคดีให้เกิดเป็นปัญหา ถือว่านายสมบัติได้แจ้งให้บริษัท WBAG ถอนเรื่องที่ร้องต่ออนุญาโตฯ แล้วไม่ทำ ถือว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด ฉ้อฉลต่อรัฐบาลไทยหรือไม่ เพราะฉะนั้นตรงนี้ตนต้องเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่าเป็นการทำผิดสัญญาแน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นเอกสารราชการที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องส่งมาให้ตน และก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก 

“กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรี ยังไม่แก้ปัญหานี้ และทิ้งปัญหานี้ให้ประชาชนต้องเดือดร้อน ต้องให้ประชาชนมาชดใช้เวรกรรมที่พวกคุณทำไว้ ต้องให้พี่น้องประชาชนต้องมาเสียค่าผ่านทางกับบริษัทแห่งนี้ เครื่องบินพระที่นั่งต้องถูกยึดแม้จะมีการไถ่คืนมาแล้ว ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชน เมื่อขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์จะได้ใบเสร็จอย่างนี้ ก็ขอให้เก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจก่อนในข้อหาทำผิด มาตรา 3 (3) ของกฎหมายการฟอกเงิน ฐานหลอกลวงประชาชน เพราะสัญญาฉบับนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว หลังจากนี้ผมจะบอกว่าจะใช้หลักฐานนี้ไปฟ้องร้องต่อศาลใด ผมจะเป็นคนนำไปฟ้องต่อศาลให้เป็นคดีตัวอย่าง ขอให้พี่น้องประชาชนเก็บบัตรค่าผ่านทางไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น เพราะถือว่าผู้ที่ขึ้นใช้ผ่านทางนี้เป็นผู้เสียหายถูกหลอกลวงได้โดยตรง” นายชาญชัย กล่าว 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.