รอมฎอน ชี้ ปมตากใบ ไม่มั่นใจรัฐ คืนความยุติธรรม หวั่น มีเหตุการณ์รุนแรงตามมา
ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง อายุความคดีของตากใบ กำลังจะหมดอายุลงวันที่ 25ต.ค. มีคดีอาญา 2 สำนวน ที่ประชาชนฟ้องเองในศาลจังหวัดนราธิวาส มีจำเลย 7 คน ยังไม่พบตัว ไม่สามารถนำจำเลยมาที่ศาลได้ และคดีอัยการสั่งฟ้อง ผู้ต้องหายังไม่ถูกจับกุม ทั้ง 14 คนยังไม่ปรากฏตัวต่อศาล
เหตุการณ์ตากใบ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนผ่านความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นความทรงจำบาดแผลประวัติศาสตร์ที่ต้องชำระสะสางอย่างมีวุฒิภาวะ เพื่อเราจะสามารถเดินหน้าต่อไปในการสร้างสันติภาพ หาข้อยุติจากความขัดแย้งนี้ได้ เราต้องการทางออกทางการเมือง
ความรุนแรงที่น่ากังวลใจ เมื่อคืนก่อนมีสถานการณ์รุนแรง และคาดการณ์ว่าจะมีสถานการณ์รุนแรงขึ้นอีก กระบวนการพูดคุยเจรจา ยังไม่ชัดเจน แม้ว่าจะมีความพยายามเริ่มต้นขบวนการพูดคุยสันติภาพใหม่ แต่คงยากถ้าเหตุการณ์ตากใบคลี่คลาย และผูกปมใหม่แบบที่เกิดขึ้น ที่สำคัญมากกว่านั้น ตอนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง มีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างทั่วไป
นายรอมฎอนกล่าวว่า ที่สำคัญมากกว่าทั้งหมดคือ ความเชื่อมั่นไว้วางใจต่ออำนาจรัฐที่กำลังถดถอย รัฐไทยสามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้จริงหรือไม่ คือคำถามใหญ่ที่ต้องระดมพละกำลัง ระดมสมอง เพื่อแสวงหาทางออก สุดท้ายเราจะโอบอุ้มความรู้สึกของญาติผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่กำลังรอคอยความจริง ความยุติธรรมนี้ได้อย่างไร เป็นหน้าที่ของเรา ที่จะนำเรื่องยาก เรื่องที่ท้าทาย มาคุยกันในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของชนชาวไทยในการหาทางออกร่วมกัน
ปัญหานี้ เป็นปัญหาความขัดแย้งที่เราเจอ เป็นปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่ปัญหาระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน พรรคนั้น พรรคนี้ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่กว่านั้น เป็นปัญหาระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ที่ไม่ลงรอยกัน อยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ที่เปราะบาง จำเป็นอย่างยิ่งใช้พื้นที่สภาฯ เป็นหนทางที่ประเทศนี้สามารถใช้ได้ เพื่อรองรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ขอให้ทั้งสองสภา ร่วมอภิปรายปัญหาใหญ่ระดับชาตินี้ หวังว่า 20 ปีถัดมา มรดกตกค้างที่ต้องคลี่คลาย สะสาง เรียกร้องประธาน และเพื่อนสมาชิกว่า ปัญหาใหญ่ระดับนี้ ควรต้องใช้พื้นที่แห่งนี้ในการหาทางออก ความยุติธรรมที่เราต้องการ อาจไม่ใช่แค่การดำเนินคดีในชั้นศาลเท่านั้น แต่อาจจะหมายถึงการเปิดเผยความจริง การเยียวยาฟื้นฟู เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ที่มีคนใช้อำนาจรัฐ ฆ่าประชาชนเกิดขึ้นอีก
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ข้อยุติในการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือการส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นความรู้สึกของคนจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น เหตุการณ์ตากใบ เป็นความรู้สึกของคนทั้งประเทศที่สำคัญเป็นความรู้สึกของรัฐบาล
สิ่งที่สำคัญคือปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะทำอย่างไรให้สังคมเกิดความยุติธรรมให้ได้ หนีไม่พ้นการเปลี่ยนผ่านต้องให้ประชาชนมาเป็นศูนย์กลางประชาชน โดยผ่านสส. ซึ่งเป็นผู้แทนประชาชนทั้ง 500 คน โดยการตั้งกมธ.การศึกษาผลกระทบคดีที่จะขาดอายุความถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชน
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอโทษประชาชน และในฐานะที่เป็นรัฐบาล เราไม่เคยพูดว่าจะมีการช่วยเหลือบุคคลที่ถูกออกหมายจับเลย มีแต่การพูดว่า จะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามผู้ต้องหาให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมได้ทันเวลาของอายุความที่มีหมายจับ ถือว่าเป็นความไม่เป็นธรรมที่ประชาชนเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม เรื่องคดีไม่ควรมีอายุความ ควรเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เพื่อเยียวยาจิตใจของคนที่โหยหาความยุติธรรม
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.