นายกฯอิ๊งค์ ย้ำ ตั้งแต่ปี68 รัฐพร้อมเทงบ ดึง Exclusive Concert จัดในไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า นานแล้วที่ประเทศไทย ไม่มีการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการว่า ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2568 หวังให้ไทยเป็นเป็นหมุดหมายปลายทางวัฒนธรรม ดนตรี รวมถึงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในประเทศไทย มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดการ และประสานงานผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะส่งเสริม Exclusive Concert  ซึ่งไม่ได้เปิดเป็นการแสดงแบบเป็นการทั่วไป มาจัดแสดงคอนเสิร์ตที่ไทย โดยในปีหน้าปีหน้ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ ต่อเนื่อง
 

นายจิรายุกล่าวว่า ในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยว และน่าลงทุน  นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษาก่อนถึงความเป็นไปได้ในการนำศิลปินระดับโลกเข้ามาการแสดงในไทย เรามีศูนย์ประชุมจำนวนมากที่พร้อมรองรับ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และภูมิภาค และขอให้เร่งดำเนินการ และเสนอเข้ามายังครม.ต่อไป 

นายสรวศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จะมีการคิกออฟวันที่1พ.ย. ว่า เป็นมาตรการจาการลงพื้นที่ ได้มีการพูดคุยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)และมีการเสนอมาตรการ โครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณของททท. อยากดูตัวเลขแล้วไม่ได้เยอะ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ พยายามดึงดูดให้คนไทยไปท่องเที่ยวในประเทศไทย เป้าหมายแรกกำหนด 10,000 คน จากนี้จะพยายามขยายต่อไป การลงทะเบียนหรือการใช้สิทธิ์ พยายามให้เกิดความคล่องตัวให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์ได้ง่าย อาจเป็นรูปแบบของคูปองรับหน้างาน หรือลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน ทั้งนี้อยากให้ได้เร็วก่อนวันที่ 1 พ.ย.

ถามว่า เป้าหมายเบื้องต้นที่กำหนด 10,000 คนจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นโครงการเริ่มต้น ถ้าดูตัวเลขแล้วอาจจะไม่เยอะ ความตั้งใจของเรา เป็นการนำร่อง เพื่อให้หลายกระทรวงและหลายหน่วยงานช่วยกัน ในการเริ่มกระตุ้นด้วยตนเองก่อน โดยไม่ต้องของบจากคณะรัฐมนตรี

ถามว่า ภาคการท่องเที่ยวสะท้อนว่า 400 บาทนั้นน้อยเกินไป ควรจะเป็น 2,000 บาท นายสรวงศ์กล่าวว่า ความจริงแล้วเข้าใจว่าน้อยไป แต่ถ้าดูกันจริงๆแล้วมันเป็นการเริ่มต้น ของแค่หน่วยงานเดียวคือททท. สิ่งสำคัญที่สุดคือ อยากให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ได้ประโยชน์ที่สุด แม้จะเป็นเงินไม่เยอะ มั่นใจว่า เมื่อมีการเริ่มแล้ว ทุกหน่วยงานก็จะพยายาม