ย้อนคำให้สัมภาษณ์"พล.อ.พิศาล"ต่อกรณีตากใบก่อนหายตัวเข้ากลีบเมฆ

กรณีศาลนราธิวาสออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และสส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในคดีตากใบ หลังทนายความฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ออกหมายจับเนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าจะหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด ซึ่งคดีนี้มีกำหนดอายุความครบ20ปี วันที่ 25ตุลาคม 2567 

พลเอกพิศาล เป็นจำเลย1ใน9คน ที่โจทก์รวม48คนซึ่งเป็นผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อ25ตุลาคม 2547 ได้สั่งให้เลิกการชุมนุม ประกาศกฎอัยการศึก ควบคุมสถานการณ์ จนเกิดความวุ่นวาย สลายการชุมนุมจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงขึ้นรถบรรทุก 25 คัน นำตัวไปค่ายอิงคยุทธบริหารแต่ผู้ที่ถูกจับกุมเสียชีวิตรวม 84 ราย 

จนถึง ณ เวลานี้ ยังไม่มีผู้ใดทราบว่า พล.อ.พิศาลอยู่ที่แห่งหนใด แม้ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้ยื่นหนังสือลาประชุมต่อสภาแจ้งเหตุผลว่าป่วย และเดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 ส.ค.-30 ต.ค.67 โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้ราษฎรลงนามอนุมัติในหนังสือลา

ก่อนหน้านี้ เคยมีบทให้สัมภาษณ์ของพล.อ.พิศาล ผ่านรายงานพิเศษของสำนักข่าวอิศรา โดยมีข้อความบางส่วนถูกถ่ายทอดลงคอลัมน์ “จุดเปลี่ยน” นสพ.มติชนรายวัน เมื่อ26 ก.พ.2555  บรรทัดต่อไปนี้ จึงเป็นคำต่อคำของพล.อ.พิศาลในช่วงเวลานั้น ที่ยังรู้สึกว่า เหตุการณ์หน้า สภ.ตากใบ จ.ปัตตานี เมื่อ25 ต.ค.2547 เป็น“แผลในใจ”ที่ยังติดค้างและอยากอธิบายให้สาธารณชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงอีกด้าน

"ผมเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนะ แต่ยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้ทหารฆ่าประชาชน เพราะเราทำแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว แล้วในวันนั้น ทั้งโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม กรรมการอิสลามจังหวัด ฯลฯ ก็อยู่กับผมทั้งหมด ผมจำได้ หลังผมไปออกรายการ ผมยกมือไว้ขอโทษพี่น้องมุสลิม เพราะเราไม่อยากให้เกิดแบบนั้น"

"ผมคนเดียว ผมยอมได้ คดีในศาลตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา ผมก็ต่อสู้โดยลำพัง ผมไม่ว่า แต่กลับทำให้เราซาบซึ้งเป็นที่สุด แม้ฝ่ายรัฐจะปล่อยเราไว้ลำพัง แต่คนที่ช่วยเรากลับเป็นพี่น้องในพื้นที่ ทั้งพยานบุคคลอะไรต่างๆ อิหม่าม โต๊ะครู พ่อแม่ผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะสื่อในพื้นที่ที่ถ่ายภาพการลำเลียงชาวบ้านทับกันไปลงข่าว ทุกคนช่วยผม ไม่เช่นนั้นผมติดคุกไปแล้ว"

 
 

"ที่จริงเรื่องตากใบ ลูกหลานหลายคนก็เคยมานอนที่บ้านผม ผมเสียใจ ผมไม่ได้ทิ้งเหตุการณ์ ต้องอย่าลืมว่าช่วงนั้นมีการประทับอยู่ใกล้พื้นที่นั้นเรามีหน้าที่ถวายอารักขา เราจะไปสั่งฆ่าได้ยังไง ในเมื่อเป็นลูกหลานเราทั้งนั้น หลายคนเคยไปกินไปนอนกับผม และผมเสียใจตรงนี้ ไม่ได้มาเรียกร้องอะไร

"ไม่มีใครอยากให้ใครตาย ผมออกมาอนาคตหมดเลย เหลืออีก 8 ปีจะเกษียณ ไม่เหลืออนาคตอะไรเลย ไม่ได้ฝันอะไรมากมายไปกว่านี้ เป็นร้อยตรีมีเท่าไหร่ เกษียณมาก็อยู่เท่านั้น ที่อยู่ทุกวันนี้จะร้อยตรี หรือพลเอกก็เหมือนกัน ไม่ได้ยึดติดตรงนั้นเลย"

ที่มา : สำนักอิศรา ร้าวสุดใจ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” กับ 8 ปี ตากใบ

 
  

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.