โจทย์ท้าทายทีมกุนซือทักษิณ กองหนุน แพทองธาร ผลักดันนโยบาย เร่งแก้เศรษฐกิจ
นอกจากปัจจัย ถ้าไม่มีทุจริตคอรัปชั่น ทำให้ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ไปได้ตลอดรอดฝั่งแล้ว ‘การขับเคลื่อนนโยบาย’ มีนโยบายจับต้องได้ โดยทำตามที่ได้ สัญญาประชาคม แถลงต่อรัฐสภาฯ เป็นอีก เรื่องสำคัญ ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และต้องเป็นนโยบายที่ประชาชนจับต้องได้ ก่อให้เกิดกับประชาชน ประเทศชาติ
แพทองธาร ให้ความสำคัญด้านนโยบาย ลงนามแต่งตั้ง คณะที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี ประกอบไปด้วย
‘พันศักดิ์ วิญญรัตน์’ ‘สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี’ ‘ศุภวุฒิ สายเชื้อ’ ‘ธงทอง จันทรางศุ’ ‘พงศ์เทพ เทพกาญจนา’ ถูกยกให้เป็น 5 อรหันต์ หลายคนเคยช่วยงาน เป็นรัฐมนตรี คร่ำหวอดในพรรคไทยรักไทย ช่วยงาน ทักษิณ ชินวัตร มาต่อเนื่องยาวนาน ในวันนี้ ปรับโหมด มาช่วยงานรัฐบาล แพทองธาร
พันศักดิ์ วิญญรัตน์
เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เคยเป็นประธานที่ปรึกษา พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี ผู้อยู่เบื้องหลัง ผลักดันแนวคิด นโยบาย เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ในยุค ทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก มาช่วยงาน รัฐบาลทักษิณ อยู่เบื้องหลังคอยให้คำปรึกษา แนะนำนโยบายที่สำคัญ ในรัฐบาลทักษิณ หลายๆเรื่อง และในยุค ยิ่งลักษณ์ พันศักดิ์ ก็เคยเป็นประธานที่ปรึกษานโยบาย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
แม้จะมีอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นที่ปรึกษา อนุทิน ชาญวีรกูล ในสมัยที่ยังเป็นรมว.สาธารณสุข เป็นหนึ่งใน Gang of 4 อันโด่งดังในรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช เป็นอดีตรมช.สาธารณสุข อดีตรมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐบาลทักษิณ และได้ช่วยงาน เพื่อไทยอีกครั้ง โดยรอบล่าสุด ถูกตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ช่วยงาน แพทองธาร
ศุภวุฒิ สายเชื้อ
เป็นประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นบุคคลที่คร่ำหวอดในแวดวงตลาดทุน มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ เคยปรากฎชื่อจะมาเป็น รมว.คลัง อยู่บ่อยครั้ง ถือเป็น ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ
ธงทอง จันทรางศุ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม มีความรู้ทางด้านพระราชพิธี จารีตประเพณี ถือว่ามีความรู้รอบด้าน เป็นอีกบุคคลที่ถูกทาบทามให้มาช่วยงาน โดยมีความสนใจที่จะเข้ามาปฏิรูป ระบบราชการ ในรัฐบาลแพทองธาร เป็นพิเศษ
พงศ์เทพ เทพกาญจนา
มือกฎหมาย คอยช่วยงานการเมือง งานกฎหมายมาตั้งแต่ ยุคพลังธรรม จนถึงการก่อตั้ง พรรคไทยรักไทย พงศ์เทพ ยังเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงในยุครัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย แวดวงตุลาการ ผู้พิพากษา โดยเขาให้ความสนใจงานทางด้านกฎหมาย เพื่อเอื้ออำนวยต่อการขับเคลื่อนระบบราชการ
ประวัติ ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน เคยทำงานมาทั้งในภาคราชการ บริษัทเอกชน องค์กรขนาดใหญ่ แม้แต่ละคน ในวัยจะล่วงเลยมากกว่า 60 70 80 แล้ว แต่ยังมีแนวคิดทันสมัย ศึกษา ติดตามความเปลี่ยนแปลงทั้งในเมืองไทย และ ต่างประเทศ ถือเป็น หนึ่งในคณะที่ปรึกษานโยบายของรัฐบาล และ ของนายกรัฐมนตรี
ตามอำนาจหน้าที่ คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็น ยักษ์มีกระบอง ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับร้องขอ และข้อเสนอ ที่ได้จะถูกผลักดันเป็น นโยบาย ผ่านความเห็นชอบจาก ที่ประชุมครม.
หลังจาก ประชุมคณะที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ 26ก.ย. สุรพงษ์ ออกมาบอกว่า
- เรื่องการทำอย่างไรให้ เอสเอ็มอีไทยส่งออกต่างประเทศได้จริงจัง ซึ่งมีมาตรการบางอย่าง คิดว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวที่หายไป จะมีการนำเสนอนายกรัฐมนตรี
-คณะที่ปรึกษานโยาย จะมีการพูดคุย นายกฯ พร้อมรับฟัง แต่ต้องไปทำร่วมกับครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-ทั้ง 5 คน ไม่มีตกสมัย เราไม่ได้ทำงานกัน 5 คน จะมีการตั้งอนุกรรมการมาดูรายละเอียดแต่ละเรื่อง เราเป็นสารตั้งต้น นำเสนอนโยบายแก้ปัญหาของประเทศครั้งใหญ่ และจะมีการประชุมทุกวันพฤหัสบดีที่บ้านพิษณุโลก
-นางสาวแพทองธาร บอกว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่อีก 2 ปี สิ่งที่อยากเห็นคนไทยจะต้องพ้นความยากจน หลุดพ้นปัญหาเศรษฐกิจ นำไปสู่ทิศทางที่ชัดเจนในการสร้างเศรษฐกิจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
สมัยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในอำนาจปี2544-2549 ทีมกุนซือที่เคยอยู่เบื้องหลังอย่าง พันศักดิ์ และ ทีมงาน ร่วมกับผลักดัน เสนอนโยบาย จนเป็นที่กล่าวขาน เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจับต้องได้
แม้จะถูกมองเป็น นโยบายประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล-ประกาศสงครามยาเสพติด การแสวงหาติดต่อ หาช่องทางใหม่ ค้าขายทั่วโลก เปิดประตูการค้า ควบคู่กับการ การทูตเชิงรุก การทูตเพื่อเศรษฐกิจ ฯ เป็นภาพจำของ ประชาชนในรัฐบาลทักษิณ และแนวทางการขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจ
แพทองธาร รับมรดก จากทีมงานรุ่นพ่อ มาช่วยผลักดัน นำเสนอนโยบาย จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่แพทองธาร ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ "แก้ปัญหาความยากจน-สร้างเศรษฐกิจให้สู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง" ถือเป็น โจทย์ใหญ่ ท้าทาย กับระยะเวลารัฐบาลเหลืออยู่เพียง 2ปีเศษ จะเป็นเครื่องชี้วัด และบทพิสูจน์ฝีมือ ผู้นำ-แพทองธาร และคณะทำงาน-ทีมที่ปรึกษานโยบาย จะช่วยกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายได้หรือไม่
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.