เปิดใจ สส.เชิดชัย ในวันเพื่อไทย ชะลอแก้รัฐธรรมนูญ รับมือ นิติสงคราม

พลันที่ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน มติเสียงที่ประชุมสส.เพื่อไทย เห็นไปในทิศทางเดียวกัน ควรถอย แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 6 ประเด็น โดยเฉพาะ ปมร้อนแนวคิด เข้าไปปรับปรุง มาตรฐานทางจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต การเข้าไปแตะอำนาจในองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. กับ ศาลรัฐธรรมนูญ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจะไปแก้ไขเรื่อง 'จริยธรรม' เจออุปสรรค คำเตือน พรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และ กระแสสังคม ตั้งคำถามอย่างหนัก ทำให้พรรคเพื่อไทยต้อง ถอนคันเร่ง จังหวะเวลายังไม่ควรไปลุยปมร้อน ถอนฟืนออกจากกองไฟ ประคองสถานภาพ เสถียรภาพ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร 

'นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์' สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และหนึ่งในแกนนำสายวิชาการ คนเสื้อแดง ขอนแก่น สะท้อนมุมมองต่างๆ หลังจาก เพื่อไทย แตะเบรก ไม่ลุยปมร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การเตรียมรับมือ นิติสงคราม ขบวนการร้องเรียน ที่พุ่งตรงมายังพรรคเพื่อไทย และ รัฐบาล 

‘การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 6 ประเด็น พรรคเพื่อไทย เมื่อได้รับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน พรรคภูมิใจไทย บอกไม่เห็นด้วย เห็นว่า ควรแก้ไขทั้งฉบับ ภายนอกก็มี Fake news เยอะโจมตีพรรคเพื่อไทย เมื่อเป็นอย่างนี้ เลยขอ ชะลอไว้ก่อน แต่ไม่ได้ยกเลิก หรือ จะไม่มีการแก้ไขเลย เพียงแต่ขอ ชะลอไว้

เราดูตามสถานการณ์ความเป็นจริง เวลานี้ ประชาชนหลายจังหวัดเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ดังนั้น รัฐบาลจึงมุ่งไปให้ความช่วยเหลือ ในเรื่องน้ำท่วมก่อน เป็นอันดับแรก รวมทั้งไปแก้ไขปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน ที่ประชาชน อยากให้รัฐบาลไปเร่งแก้ไข 

เราไม่ได้เลิก หรือ จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเลิก ไม่แก้ไข พรรคเพื่อไทยจะเสีย เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลและของพรรค ถ้าเลิกไป จะเสียเลย
 

เรื่องที่มีการพูดถึง ประเด็นจริยธรรม พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ยกเลิกในส่วนนี้ออกไป เราอยากจะกำหนดนิยาม ขอบเขต มาตรฐานทางจริยธรรมให้ชัดขึ้น หากมีผู้ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ เมื่อป.ป.ช.รับเรื่อง ตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีมูล ได้ชี้มูล จากนั้นส่งให้ ศาลฎีกาในการวินิจฉัย ดีกว่า เป็นหน้าที่ของ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่อยากเห็นเหมือนกรณีอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่โดนศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตัดสิน แล้วคำตัดสินนั้นก็ผูกพันไปทุกองค์กร

นพ.เชิดชัย มองว่า เรื่องจริยธรรม เป็นนามธรรม เอามาหาเรื่องกัน ไม่มีเกณฑ์ชัดเจน ร้องไปอย่างไม่มีสิ้นสุด พรรคเพื่อไทย เราอยากทำให้มีเกณฑ์ ทำให้ Stable บ้านเมืองจะได้ไปได้ รัฐบาลจะได้ไปมุ่งมั่นแก้ปัญหาอื่นๆ 

เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเลยขอชะลอตรงนี้ไว้ก่อน ขอย้ำว่า แค่ชะลอ ไม่ได้ยกเลิก หรือจะไม่มีการแก้ไข เป็นการทำตามสถานการณ์จริง ดูตามสถานการณ์บ้านเมือง ตอนนี้ คนเดือดร้อน น้ำท่วม มีปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน เราต้องแก้ตรงนี้ก่อน เรื่องรัฐธรรมนูญ ชะลอไว้ก่อน

นโยบายพรรคเพื่อไทย บอกชัดเจน จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ต้องทำให้รอบคอบ ไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง จะเดินตามแนวทางให้มี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)มาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นแนวทางของเรา เพียงแต่เรื่องนี้ ไม่ค่อยมีใครพูดถึง

ในระยะหลัง พรรคเพื่อไทย โดนเรื่องเรื่องนิติสงคราม เล่นงานเยอะ และ มีกลุ่มนักร้องเรียน ร้องเรียนไปยังองค์กรต่างๆตรวจสอบตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี มาถึง รัฐมนตรี สส. เพื่อไทย

นพ.เชิดชัย สะท้อนความเห็นว่า ส่วนตัวชอบ อาจารย์ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการด้านกฎหมาย ที่เคยออกมาพูดแสดงความเห็น เรื่องจริยธรรม เขาพูดชัดมากเลย รัฐธรรมนูญ2560 พร้อมปราบพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ปราบพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ยังพร้อมปราบพรรคอื่นๆด้วยเหมือนกัน ถ้าแหลมขึ้นมา ถ้าจะเล่นงานใคร ใช้เรื่อง จริยธรรม เป็นการใช้นิติสงคราม มาเล่นงานกัน 

พรรคเพื่อไทย อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระดมนักกฎหมาย หากเห็นว่า อะไรที่โดนร้องเรียนที่ดูแล้วไม่มีข้อเท็จจริง เป็นอคติ จะใช้ช่องทางกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม 

หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า อันนั้นเป็นแนวทางหนึ่ง เราต้องมาดู ถ้าการร้อง ไม่เป็นเรื่อง อาจทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน พรรคเพื่อไทย เมื่อมาจากการเลือกตั้ง ต้องอดทน แต่ก็ต้องใช้กฎหมายปรามกันบ้าง หวังพึ่งศาลเป็นหลัก วันนี้ รัฐบาลต้องการทำผลงาน และรัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ และทางการเมืองไปด้วย

หากเอ่ยชื่อนักร้อง 4-5 คน เขามีความสุขหรือไม่ บางครั้งไปร้องคนนั้น ร้องคนนี้ ไม่เป็นความจริงก็มี เสียเวลา คนถูกร้องก็กังวล ไม่ต้องทำมาหากินอะไร เพราะมาแก้เรื่องที่โดนร้องอยู่ ก็ไม่เป็นธรรมสำหรับเขา 

แนวทางรับมือของพรรคเป็นอย่างไร เอาไว้ให้นักกฎหมายที่ชำนาญการไปว่ากัน แต่ถ้ามีการใส่ร้าย ก็ไม่เป็นธรรม  ไม่ได้ป้องกันนักการเมืองอย่างเดียว แต่ต้องป้องกันสุจริตชนด้วย เราต้องแก้ทั้งระบบ กฎหมายที่มีอยู่ จะได้ช่วยสุจริตชนทั้งหลายด้วย ไม่อย่างนั้น จะถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อย ไม่ได้ทำเพื่อเฉพาะนักการเมือง แต่ทำเพื่อทุกคน