"ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ"นั่งอัยการสูงสุดคนที่36 เผยประวัติครบเครื่องบู๊บุ๋น

ที่ประชุมวุฒิสภาลงคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553) ด้วยคะแนนเสียง ให้ความเห็นชอบ 184 คะแนน ไม่ให้ความเห็นชอบ 2 คะแนน ไม่ออกเสียง 9 คะแนน
     

     
ผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมากจากที่ประชุมวุฒิสภา จึงถือเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด

สำหรับนายไพรัช เกิดวันที่ 27 มกราคม 2503 ชื่อเล่น ไผ่

ประวัติการศึกษา
สำเร็จการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2523
เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สมัยที่ 34 พ.ศ. 2525 
LL.M., Tulane University, USA พ.ศ. 2526
 

ประวัติการทำงาน
อัยการผู้ช่วย กองคดีอาญา เมื่อปี พ.ศ. 2530 
สอบเข้ารับราชการได้ในลำดับที่ 1

ดำรงตำแหน่งสำคัญ ดังนี้
พ.ศ. 2552 - 2558 อัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 3 สำนักงานต่างประเทศ  
พ.ศ. 2558 - 2559 อัยการพิเศษฝ่ายยุทธศาสตร์และฐานข้อมูลคดีค้ามนุษย์ สำนักงานคดีค้ามนุษย์  
พ.ศ. 2559 - 2561 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 สำนักงานคดีอาญา
พ.ศ. 2561 - 2563 รองอธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ
พ.ศ. 2563 - 2564 อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ
พ.ศ. 2564 - 2565 อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง  
พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน รองอัยการสูงสุด

ผลงานสำคัญ

นายไพรัช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ ได้พัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่างๆ และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง ก็ดูเเลเขตโรงพักในนครบาล90สน. อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุดคนที่26 นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่3 ของพรรคเพื่อไทย 

เคยผ่านงานสำคัญที่สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานคดีเเขวง สำนักงานคดีอาญา สำนักงานคดีค้ามนุษย์ เรียกได้ว่าเป็นอัยการที่ครบเครื่องเชี่ยวชาญทางด้านงานวิชาการเเละงานคดี โดยเฉพาะช่วงที่ทำงานคดี ได้รับความชื่นชมในหมู่อัยการด้วยกันเอง เรื่องความโปร่งใส ความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์เเละมีความเชี่ยวชาญในสายที่ปรึกษากฎหมายมากที่สุด

เมื่อขึ้นเป็นรองอัยการสูงสุดในปี พ.ศ. 2565 ได้รับมอบหน้าที่ดูเเลสำนักงานสำคัญของอัยการ อาทิ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ที่ได้รับการชื่นชมในเรื่องการฟ้องขอให้ทรัพย์สินจากการกระทำผิดตกเป็นของเเผ่นดินจำนวนมากนับหมื่นล้านบาท

ดูแลสำนักงานคุ้มครองสิทธิเเละช่วยเหลือประชาชน ที่ในปัจจุบันมีบทบาทช่วยเหลือกฎหมายประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสำนักงาน ก.อ. ซึ่งมีหน้าที่ทำบัญชีโยกย้ายเเต่งตั้ง เเละพิจารณาโทษวินัยข้าราชการอัยการ นอกจากนี้ยังเป็นรักษาการ อสส. ชั่วคราว ที่ปฏิบัติราชการเเทนเเละพิจารณางานสำคัญระหว่างที่นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดคนที่35 รักษาตัวจากอาการป่วย

นายไพรัช เคยเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เช่น กรรมการบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด, กรรมการบริษัทรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ จำกัด (ร.ส.พ.), กรรมการบริษัท ที่โอที จำกัด (มหาชน), ที่ปรึกษากฎหมาย การเคหะแห่งชาติ, กรรมการกำกับการบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และกรรมการคณะกรรมที่ปรึกษากลั่นกรองร่างกฎหมายของวิปรัฐบาล

เดิมทีหลังพ้นวันที่ 30 กันยายน 2567 คิวตำแหน่งอัยการสูงสุด เป็นของนายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ อดีตรองอัยการสูงสุดแต่ยื่นขอเป็นอัยการอาวุโส จึงทำให้นายไพรัช ที่อยู่ลำดับอาวุโสถัดมาขึ้นเป็นอัยการสูงสุด เเละถูกเสนอชื่อเเละผ่านมติ ก.อ. อย่างเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.