ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง “ชาญชัย” คดีคิงเพาเวอร์ ฟ้องหมิ่นประมาท

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องพิจารณาที่ 505 ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ ศาลอุทธรณ์ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โจทก์ที่ 1 ,

บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด โจทก์ที่ 2 ,

บริษัทคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด โจทก์ที่ 3

ร่วมฟ้องตนในคดีหมิ่นประมาท

โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาสั่งยกฟ้อง ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ หน้าที่ 36 -40

ทั้งนี้ ตนในฐานะเป็นจำเลยที่ 2 หลังได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) มีอำนาจหน้าที่ศึกษาการป้องกันและปราบปราม การทุจริต

ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบโครงการที่เกี่ยวกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ โดยตรวจสอบใน 2 สัญญา คือ สัญญาโครงการเชิงพาณิชย์ และ สัญญาร้านค้าปลอดอากร ทั้งข้อกฎหมายและพฤติกรรมของแต่ละโครงการที่เกี่ยวข้อง หลังศึกษาเกี่ยวกับสัญญาดังกล่าวแล้ว จึงให้สัมภาษณ์ทางสื่อ กระทั่งถูกกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ฟ้องหมิ่นประมาทหลายคดี

เช่นเดียวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ. 2683-2684 / 2561 ที่มีข้อความ และเนื้อหาเช่นเดียวกับคดีนี้เพียงแต่เป็นคนละวันเวลากัน  ซึ่งศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องทั้งสามศาล

โดยวินิจฉัยว่าการให้สัมภาษณ์ของตนไม่ใช่เรื่องที่กล่าวอ้างโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีพยานหลักฐาน หรือกล่าวอ้างขึ้นลอยๆแต่อย่างใด  แต่เป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงแน่ชัด

จนกระทั่งในที่สุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ที่ 2 และ 3 ทราบว่า สัญญาที่ทำกันไว้นั้นไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐพ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ)

จึงไม่มีผลผูกพันเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 และ 3 ยื่นฟ้อง ทอท. ต่อศาลแพ่ง ซึ่งในคำฟ้องดังกล่าว โจทก์ที่ 2 และ 3 ยอมรับว่า การลงทุนในแต่ละโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท ตามที่สำนักงานผู้การแผ่นดินตรวจสอบ

นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์ยังระบุตามคำพิพากษาศาลต่อว่า การแก้ไขสัญญาเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทนสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งผลการตรวจสอบให้ ทอท. ว่าต้องได้ค่าตอบแทนอัตราร้อยละ 15 ของราคาขาย ไม่ใช่อัตราร้อยละ 3 ของค่าบริการ

แสดงให้เห็นว่า ข้อความที่ให้สัมภาษณ์สื่อเป็นข้อเท็จจริงที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาเพียงเพื่อจะกลั่นแกล้งกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทั้ง 3 บริษัท ให้ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ที่สำคัญกว่านั้นคือ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะอาจเกิดความเสียหายขึ้นต่อส่วนรวม ในฐานะ ทอท. เดิมเป็นรัฐวิสาหกิจภายหลังได้แปรสภาพมาเป็นบริษัทมหาชนจำกัด มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หากมีความเสียหายเกิดขึ้นก็เท่ากับ หน่วยงานของรัฐหรือประเทศชาติได้รับความเสียหายไปด้วยการร่วมกันรักษาปกป้องประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติย่อมเป็นหน้าที่ของประชาชนพลเมืองดีโดยทั่วไป

จากกรณีดังกล่าว ตนมองว่า กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จงใจฟ้องปิดปาก  โดยเป็นการนำข้อมูลเดียวกัน มาฟ้องซ้ำเพื่อกลั่นแกล้งให้ผมถูกลงโทษและได้รับความเสียหาย ทั้งยังกระทบสิทธิ ตามที่กฎหมายคุ้มครอง อีกทั้งข้อเท็จจริงทั้งหมดที่นำมาฟ้อง  โจทก์ได้ร่วมกระทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะและประเทศชาติ

และเมื่อศาลฎีกาสั่งยกฟ้องไป 11 คดีแล้ว จึงเห็นว่าโจทก์ทั้งสามได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ที่ระบุว่า ‘ผู้ใดเอาความเท็จฟ้องผู้อื่นว่า กระทำผิดความผิดอาญา ต้องมีโทษทางอาญาจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

ตนจึงขอใช้สิทธิตามกฎหมายฟ้องกลับทุกกรณี เพื่อให้สังคมได้เรียนรู้การใช้สิทธิปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ย่อมได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย  

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.