สวนดุสิตโพล ชี้ประชาชนเชื่อ เศรษฐาพ้นตำแหน่งมีเบื้องหลัง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนายกรัฐมนตรี” ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,239 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าการที่นายกฯเศรษฐาหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ร้อยละ 52.88 และน่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง ร้อยละ 70.30 ทั้งนี้หวังว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ควรเข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน ร้อยละ 62.62 สุดท้ายคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ น่าจะเป็น แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 36.35 รองลงมาคือ อนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 25.33
1. ประชาชนคิดอย่างไรต่อการที่นายกฯเศรษฐาหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อันดับ 1 เป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง 52.88%
อันดับ 2 กังวลกับนโยบายที่ได้ทำไว้ อาจไม่ต่อเนื่อง 51.26%
อันดับ 3 เป็นการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล 46.63%
อันดับ 4 กังวลว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง 44.68%
อันดับ 5 ไม่สนใจ ไม่มีผลต่อชีวิตประจำวัน 15.76%
2. ประชาชนคิดว่าการหลุดจากตำแหน่งของนายกฯเศรษฐาจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองไทยหรือไม่
อันดับ 1 ส่งผลกระทบ 70.30%
อันดับ 2 ไม่ส่งผลกระทบ 29.70%
3. ประชาชนหวังว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ควรมีคุณสมบัติอย่างไร
อันดับ 1 เข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน 62.62%
อันดับ 2 สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ 61.97%
อันดับ 3 เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศ 58.14%
อันดับ 4 สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกับฝ่ายต่างๆ ได้ดี 55.86%
อันดับ 5 มีความเป็นกลางและยุติธรรม 54.56%
4. ประชาชนคิดว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุชื่อด้วยตนเอง)
อันดับ 1 แพทองธาร ชินวัตร 36.35%
อันดับ 2 อนุทิน ชาญวีรกูล 25.33%
อันดับ 3 ชัยเกษม นิติสิริ 22.20%
อันดับ 4 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 7.89%
อันดับ 5 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 4.61%
อันดับ 6 ประวิตร วงษ์สุวรรณ 3.62%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนถึงความกังวลของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นในช่วงนี้ มองเห็นถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองที่อาจกระทบต่อทิศทางการบริหารประเทศและนโยบายเรือธงที่เป็นความหวังของประชาชน เรื่องการเมืองมีความซับซ้อนและผลประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น ผู้นำคนใหม่จึงต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในปัญหาของประเทศและสามารถเชื่อมโยงกับประชาชนได้อย่างแท้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำพาประเทศไปสู่เสถียรภาพที่มั่นคง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ชุติกาโม อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ทิศทางการเมืองไทยนับจากนี้ เราจะมีนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้านที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของการปกครองไทยนับตั้งแต่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมา 92 ปี คนรุ่นใหม่ที่หลายฝ่ายอยากได้มาสร้างรูปแบบ และกระบวนการทางการเมืองใหม่ ๆ จะเป็นดังที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.