เปลือยประวัติ"ศรายุทธ"สายตรง"ธนาธร"เลขาพรรคประชาชน

นายศรายุทธ ใจหลัก หรือ ติ่ง อดีตผู้อำนวยการพรรคก้าวไกลเพื่อนสนิทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รับหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคประชาชน แถลงข่าวครั้งแรก หลังการประชุมอดีตสส.พรรคก้าวไกลที่อาคารไทยซัมมิท  พรรคประชาชน ได้เปลี่ยนชื่อมาจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ บัวประทุม นายทะเบียนพรรค น.ส.ชุติมา คชพันธ์ เหรัญญิกพรรคและนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค

สำหรับนายศรายุทธ เป็นอดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ปี 2543  ขณะที่นายธนาธร เป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2542 และรองเลขาธิการสนนท.ปี 2543โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ปี 2541

ทั้งสามเป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้ายุคสมัยนั้น ทำกิจกรรมนอกรั้วมหาวิทยาลัย จากต่างสถาบันแต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ เหมือนกัน นายศรายุทธมาจากเกษตร นายธนาธรมาจากธรรมศาสตร์ ส่วนนายชัยธวัชมาจากจุฬาฯ หรือทีม"วิศวะ สนนท."  

ช่วงปี 2560 มีการรวมตัวกันก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร รับเป็นหัวหน้าพรรคนายชัยธวัช เป็นรองเลขาธิการ ส่วนนายศรายุทธรับดูแลหลังบ้านเป็นผู้อำนวยการพรรคฝ่ายเครือข่ายในปี 2561 หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการพรรคอนาคตใหม่ หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า กลางปี 2564 เป็นผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล และดำรงตำแหน่งจนกระทั่งพรรคก้าวไกลถูกยุบ

การปรากฏตัวของนายศรายุทธ จากเป็นคีย์แมนคนสำคัญเบื้องหลังรับหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคประชาชนมาอยู่เบื้องหน้าสอดรับกับท่าทีของนายธนาธร ที่ประกาศชัดว่าบ้านหลังใหม่ของก้าวไกลหลังยุบพรรค ก้าวต่อไปคือชนะเลือกตั้งในปี2570

ขณะที่นายศรายุทธิ์  กล่าวแถลงตอนหนึ่งในการเปิดตัวพรรคประชาชนว่า เราตระหนักเรื่องนี้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาและผู้คนจำนวนมาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงก้าวไกล

เรามีโครงสร้างสมาชิกพรรคทำงานเครือข่ายพื้นที่ ชาติพันธุ์ ผู้ใช้แรงงาน ฯลฯ เราคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้เราจะมีโครงสร้างสมาชิกพรรคที่ทำงานการเมืองท้องถิ่น และโครงสร้างสมาชิกพรรคที่เข้าไปทำงานเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

"หน้าที่ของผมคือการประสานการทำงานทุกภาคส่วนให้สอดคล้องกัน เพื่อเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เพื่อทำให้มั่นใจว่าเราจะมีพรรคการเมืองที่ทำเพื่ออนาคต แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ตาม"