จับตาภาวะ ผึ้งแตกรัง-สส.ย้ายพรรค (ถ้า)ก้าวไกล ชะตาขาด (โดน)ยุบพรรค

พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญ มรสุมทางการเมืองอีกระลอก ศาลรัฐธรรมนูญ นัด 7ส.ค.67 อ่านคำพิพากษา คดีที่บุคคลและพรรค มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ที่มีผลโดยตรงต่อ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งในชุดของ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' และ 'ชัยธวัช ตุลาธน' เป็นหัวหน้าพรรค รวมทั้งสิ้น 11 ราย 

ยังมีความกังวลไปถึง สส.-อดีตสส.ก้าวไกล ทั้ง 44คน เข้าชื่อเสนอประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ผลพวงจาก คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าออกมาในทางลบ จะกลายเป็นหัวเชื้อนำไปร้องให้ ป.ป.ช. ชี้มูล ผิดวินัยจริยธรรมร้ายแรง ก่อนนำส่งต่อ ศาลฎีกาพิพากษา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล ติดตาม
 

หากพรรคก้าวไกล ถูกยุบ ผลที่จะตามมา ทันที และ ช่วงที่ดำเนินการไปถึง ก่อนการเลือกตั้ง นั่นคือ สมาชิก สส.พรรค ตัดสินใจ ไม่ร่วมงานทางการเมืองกับ พรรคก้าวไกล ต่อไป

ย้อนประวัติศาสตร์ หลังจาก พรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบพรรคไปเมื่อปี 2563 พบว่า มีสส. ไม่ตามไป พรรคที่ทางอนาคตใหม่ เตรียมพร้อมสำรอง พรรคผึ้งหลวง(พรรคร่วมพัฒนาชาติไทย) ก่อนปรับโฉม แปรเปลี่ยนเป็น “พรรคก้าวไกล” มีสส. จาก พรรคอนาคตใหม่เดิม เข้าร่วมกับ พรรคดังกล่าวจำนวนมาก 

หลังพรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบพรรค สส.ไม่ได้ตามไปสังกัด พรรคก้าวไกล 10 ราย

 
วิรัช พันธุมะผล สส.บัญชีรายชื่อ , สำลี รักสุทธี สส.บัญชีรายชื่อ , มณฑล โพธิ์คาย สส.กทม. , โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี สส.กทม. 

อนาวิล รัตนสถาพร สส.ปทุมธานี ,สมัคร ป้องวงษ์ สส.สมุทรสาคร , กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ สส.ฉะเชิงเทรา ,ฐิตินันท์ แสงนาค สส.ขอนแก่น 

กฤติเดช สันติวชิระกุล สส.แพร่ , เอกการ ซื่อทรงธรรม สส.แพร่
 

ทำผิดข้อบังคับพรรค โหวตสวนมติพรรค และถูกขับออก 4 ราย ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ 

ศรีนวล บุญลือ สส.เชียงใหม่ , จารึก ศรีอ่อน สส.จันทบุรี , ฐนภัทร กิตติวงศา สส.จันทบุรี , กวินนาถ ตาคีย์ 

โหวตสวน ลาออก ก่อนการยุบสภาฯปี2565 อีก 5 ราย การเลือกตั้ง2566 ได้ไปสังกัดพรรคอื่น ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ขวัญเลิศ พานิชมาท สส.ชลบุรี , พีรเดช คำสมุทร สส.เชียงราย , เอกภพ เพียรพิเศษ สส.เชียงราย , เกษมสันต์ มีทิพย์ สส.บัญชีรายชื่อ , คารม พลพรกลาง สส.บัญชีรายชื่อ 

หลังจาก พรรคอนาคตใหม่ โดนยุบพรรค ผลพวงจากการ ขับเคลื่อนนโยบาย แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 และ การเคลื่อนไหว แนวทางของพรรค ในเรื่องละเอียดอ่อน มีแนวคิด แนวทาง การบริหารจัดการ หรือในเรื่องอื่นๆ ทำให้ มีสส. ในขณะนั้น ไม่ก้าวเดินต่อไป กับ อนาคตใหม่ มา สู่ พรรคก้าวไกล จำนวนมาก 

ล่าสุด เพจพรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปวีดีโอ“จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” โดยเป็นการสัมภาษณ์ สส.ของพรรค คือ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรค นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค 

“คดียุบพรรคที่พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญอยู่ ไม่ต่างกับสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆ เจอมาในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 สิงหาคมนี้จะเกิดอะไรขึ้น

หากพรรคถูกยุบ ไม่ได้ทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจ หรือ รู้สึกหมดหวังได้ พรรคก้าวไกลกลายเป็นสถาบันการเมือง ไม่ว่าคนจะเปลี่ยนไปกี่รุ่น หัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนกี่คน แต่ความเป็นอนาคตใหม่ และก้าวไกลยังคงอยู่ ไม่ว่าพรรคต่อไป  ไม่ว่ายานพาหนะต่อไปจะชื่อว่าอะไรก็ตาม”

แกนนำ สมาชิกพรรคคนสำคัญในพรรคก้าวไกล ออกมาปลุกขวัญ พร้อมเผชิญกับ ผลทางคดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7ส.ค. แต่ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อมองย้อนกลับไป เทียบเคียงกับ พรรคอนาคตใหม่ เมื่อถูกยุบ มีทั้ง สส.เดิม ที่พร้อมสืบทอด แนวคิด อุดมการณ์พรรค ไปร่วมงานกับ พรรคก้าวไกล 

ขณะเดียวกัน สส.อีกหลายคน ที่หวั่นเกรง หากก้าวไกล ยังเลือกเดินทางในแนวทาง ละเอียดอ่อน อ่อนไหว ทางนโยบายบางประการ ทำให้ฝ่ายความมั่นคงจับตามอง ผลสรุปสุดท้าย คงมี บทลงเอย ไม่ต่างจากเดิม และในครั้งนี้ ก็เช่นกัน พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญ ผลทางคดี ที่มีเดิมพันต่อชะตากรรมพรรค ชะตากรรมบุคลากรในพรรค 

ก้าวไกล ชนะเลือกตั้ง เป็นพรรคอันดับหนึ่ง มีสส.151 เสียง แต่กลับจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ด้วยแนวคิด การดำเนินนโยบายที่ยังไม่เป็นที่ตอบรับจาก พรรคการเมืองในสนามเลือกตั้ง

บทเรียน อนาคตใหม่ มา ก้าวไกล 'ตั้งพรรค-ชนะเลือกตั้ง-ไม่ได้เป็นรัฐบาล-ถูกยุบพรรค' กลายเป็นวงจรอยู่อย่างนี้ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าผลของ คำตัดสิน ออกมาใน ทางลบ ส่งผลในทางร้าย กับ พรรคก้าวไกล เป็นที่น่าจับตา จะเกิดภาวะ ผึ้งแตกรัง สส.แยกย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พรรคต้องเผชิญ กับผลพวงที่ตามมาอย่างแน่นอน