‘วิษณุ เครืองาม’ชูปราบโกงยุคดิจิทัล กำลังยกร่างกม.อุดช่องขรก.เรียกเงิน
เมื่อวันที่ 26ก.ค.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ บรรยายพิเศษเรื่องการป้องกันการทุจริตยุค "Digital Disruption"หลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 15 จัดกิจกรรมสัมมนาสาธารณะหัวข้อ- “นวัตกรรมในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกง ในยุค Digital Disruption” ว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น มีความสำคัญมากขึ้นทุกทีโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันเมื่อไม่นานมานี้มีการตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นศาลพิเศษเฉพาะในเรื่องคดีทุจริต เพราะคดีมีความลึกลับซับซ้อนต้องอาศัยความชำนาญของผู้พิพากษาที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ
แต่การป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีศาลเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชนสำคัญ เพราะการทุจริตเป็นข้อหาอาญา ไม่ว่าคดีอาญาใดก็ตามจะนึกถึงหน้าที่ของตำรวจ แต่วันนี้มี ป.ป.ช. ก็นึกถึง ป.ป.ช. แต่อาจลืมไปว่าประชาชนเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2567 ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.แก้ไขป.ป.ช.บางมาตรา เพื่อให้ความคุ้มครองพยานที่ให้การคดีทุจริตป้องกันการฟ้องร้องปิดปาก
ในอดีตเมื่อมีการทุจริตเกิดขึ้น แล้วไม่ค่อยแพร่งพรายออกมา ประชาชนก็ไม่กล้าร้องเรียนเพราะเมื่อฟ้องหรือร้องเรียนก็จะถูกฟ้องกลับ ทำให้เป็นว่าสรุปเงียบเสียดีกว่า วันนี้ได้แก้ไขกฎหมายแล้วนำเข้าคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและเข้าสภาฯประมาณปลายปี 2567
สิ่งที่เป็นนวัตกรรมจริงๆในการปราบปรามการทุจริต ผู้ที่เป็นข้าราชการคงเคยได้ยินชื่อกฎหมายฉบับหนึ่ง มีชื่อว่า ร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการอนุญาตอนุมัติของทางราชการ พ.ศ.2558 เกิดขึ้นหลัง คสช.เข้ามา1ปีแต่เสนอสภาฯไม่ได้ เพราะหลายกระทรวงคัดค้าน ไม่สบายใจ ถ้าใช้บังคับจะเพิ่มภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ ปิดช่องทางทุจริตหลายช่องส่วนใหญ่ที่ประชาชนยอมจ่ายเงินเพราะต้องการซื้อความสะดวก
ด้วยเหตุนี้จึงมีความคิดมาร่วม 10 ปี ควรมีกฎหมายฉบับหนึ่งออกมาอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในการขออนุญาตอนุมัติอะไรก็ตามที แล้วได้รับความสะดวกโดยอัตโนมัติ เขาก็ไม่จ่ายเงิน และเจ้าหน้าที่ไม่กล้าพอไปเรียก จึงทำกฎหมายนี้ขึ้น แต่เสนอสภาฯไม่ได้ เพราะเข้า ครม.ก็ถูกกระทรวงคัดค้าน
บัดนี้กำลังจะเกิดนวัตกรรมใหม่ขึ้น รัฐบาลปัจจุบันได้รับร่างหลักการกฎหมายสำคัญฉบับหนึ่ง ชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการประชาชนฯแล้วคล้ายกับฉบับปี 2558 แต่ฉบับดังกล่าวไม่พูดเรื่องบริการประชาชน บัดนี้ 9 ปีผ่านไป ยกระดับขึ้นมา ฉีกกฎหมายอำนวยความสะดวกปี 2558 ทิ้ง เพราะมันจะขยายถึงการให้ความสะดวกในการบริการด้วย เช่น การขอติดตั้งประปา ไฟฟ้า อะไรก็ตามที่ไม่ใช่ขออนุญาต แต่ขอบริการ เป็นต้น ข้าราชการคนใดฝ่าฝืนเท่ากับผิดวินัย หรือผิดวินัยร้ายแรง
กฎหมายฉบับนี้กำลังตรวจอยู่ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา ชุดที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน มีผมและอีกหลายคนเป็นกรรมการร่วมกันตรวจอยู่ขณะนี้ ตรวจไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เสร็จเมื่อไหร่ เสนอสภาฯเมื่อนั้น คาดว่าเสนอได้ต้นปี 2568 หากใช้บังคับ ข้าราชการต้องระวังมากขึ้น โทษรุนแรงมากขึ้น และกำหนดละเอียดถี่ยิบมากขึ้น คู่มือต้องทำ ปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ขณะเดียวกันต้องอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตั้งศูนย์ One Stop Service ขึ้นด้วย
ถ้ากฎหมายใช้ได้แล้วสภาฯไม่แก้ไข ประชาชนไม่ต้องไปที่ว่าการอำเภอ หรือที่ว่าการเขตใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ติดต่อได้ทั้งสิ้น เมื่อไม่ต้องเผชิญหน้าโอกาสถูกรีดไถก็ไม่มี หากข้าราชการถ่วงเวลา ก็สามารถร้องเรียนได้ ทุกวันนี้ที่โกงกันคือการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องแก้ไขตรงจุดนี้ เพื่ออุดช่องว่างการทุจริตคอรัปชั่น
"ที่สำคัญคือมีมาตราหนึ่งเขียนว่า เมื่อประชาชนติดต่อราชการ หากคู่มือบอกใช้เวลาเท่านี้ ถ้าไม่เสร็จทันตามกำหนดเวลา ให้เจ้าหน้าที่รับผิด ประชาชนฟ้องได้ หรือร้องเรียนผู้บังคับบัญชาได้ ปัจจุบันส่วนราชการทำคู่มือหมดแล้ว ให้ ก.พร.ไปสำรวจ แต่ที่เกิดขึ้นเมื่อทำแล้ว หลายหน่วยงานไม่เผยแพร่ให้ประชาชนทราบ เวลาไปติดต่อราชการก็เสียเวลาอยู่ดี"นายวิษณุ กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.