ของบ67เพิ่มเติม1.2 แสนล้าน วาระแรกผ่านฉลุย มติสภาฯโหวต 297ต่อ164

ที่อาคารรัฐสภา อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาทที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมี สส.ฝ่ายค้าน อภิปรายท้วงติง กังวลต่อการนำงบประมาณดังกล่าวไปดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ส่วนสส.ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย กับ รัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลัง สลับกันชี้แจง ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็น ในการนำเงินไปเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายสรุปว่า โครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ได้ไม่คุ้มเสีย เต็มไปด้วยคำถาม อาทิ การกำหนดเงื่อนไขที่กีดกันผู้ค้ารายย่อย ไม่นำไปสู่การลงทุนระยะยาวที่มีตัวคูณเศรษฐกิจที่สูงกว่า นอกจากนั้นการกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนเป็นเพียงการเลี่ยงกฎหมาย ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายนั้นน่าตกใจ ทั้งการเพิ่มหนี้สาธารณะ มีค่าเสียโอกาสในรูปแบบหรือมาตรการที่รัฐบาลต้องตัดเพื่อโยกงบใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวม 1.75 แสนล้านบาท

“หากรัฐบาลดึงดันเดินหน้า อาจไม่มีเงินทำนโยบายที่พรรคเพื่อไทยสัญญาไว้กับประชาชนที่ช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุดกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 3 ปีข้างหน้าเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐบาลจะรักษาสัญญาได้หรือไม่ สิ่งที่พบคือ เมื่อรัฐบาลหาเงินทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามเอกสารที่ส่งให้ กกต. ได้ตัดงบอื่นๆ เพื่อรักษาหน้าของตัวเอง ซึ่งผลนั้นต้องแลกกับความลำบากของประชาชน เช่น นักเรียนหลุดจากระบบการศึกษามากกว่า 50% การช่วยเหลือผู้ปกครองเรื่องค่าเล่าเรียน  การแก้ปัญหาค่าไฟแพง สวัสดิการประชาชน เป็นต้น และจะไม่สามารถทำตามสัญญาที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้” นายพริษฐ์ อภิปราย

นายพริษฐ์ อภิปรายว่า รัฐบาลไม่ต้องส่งตีความเรื่องรายละเอียดในงบประมาณ เช่น ไอแพด คือ ไอแพดหรือไม่ แต่ควรยื่นตีความว่าพรรคเพื่อไทยปัจจุบันเป็นพรรคเพื่อไทยที่ยื่นเอกสารให้ กกต.ตอนหาเสียงหรือไม่ ขอให้ สส.ที่ลงมติขอให้ลงมติด้วยความเชื่อว่าทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ลงมติเพราะความกลัวจะผิดสัญญา อย่างไรก็ดีการใช้เงินเพื่อดิจิทัลวอลเล็ตจะไม่เหลือเงินทำโครงการอื่นๆ ตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ดังนั้นของให้รัฐบาลใช้อิสรภาพในการโหวต ไม่ใช่โหวตบนผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งนี้พรรคก้าวไกลพร้อมจะตรวจสอบต่อไป และจะลงมติไม่เห็นชอบ.

กระทั่งเวลา 19.40 น. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม กดออกเรียกสมาชิกเพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม และลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี2567 วงเงิน 1.22แสนล้านบาท ด้วยคะแนน 297 ต่อ164 งดออกเสียงและไม่ออกเสียง ไม่มี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร โหวตรับการร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ.... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จากนั้นมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญฯ ขึ้นมาศึกษาจำนวน 32 คน  โดยมีสัดส่วน ประกอบไปด้วย สัดส่วน คณะรัฐมนตรี  จำนวน 8 คน  สส. จำนวน 24 คน ตามสัดส่วนพรรคการเมือง ดังนี้ พรรคเพื่อไทย 7คน  พรรคก้าวไกล 7 คน  พรรคภูมิใจไทย 3 คน   พรรคพลังพลังประชารัฐ 2คน  พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 คน  พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1คน  และพรรคประชาชาติ 1 คน   กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ  2 วัน 

สำหรับระยะเวลาพิจารณาพิจารณาของกมธ.วิสามัญฯ จำนวน 5 วัน และนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระ 2-3 ในวันที่ 31  ก.ค.นี้