ก้าวไกล นัด 9 มิ.ย.แถลงใหญ่ สู้คดียุบพรรค ชัยธวัช ชี้ พร้อมรับทุกสถานการณ์
วันที่4มิ.ย. อาคารสำนักงานเครือเนชั่น ย่านบางนา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยคณะสส. เดินทางมาร่วมอวยพร เนชั่นทีวีก้าวขึ้นสู่ปีที่ 25 พร้อมกับให้สัมภาษณ์ประเด็นความพร้อมในการเตรียมต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ทีมกฎหมายจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีกกต.ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกลเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่3มิ.ย. ชนิดไม่ได้หลับไม่ได้นอน เช้าวันที่ 4มิ.ย. ได้ส่งคำชี้แจงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ คำชี้แจงมีจำนวน 100 กว่าหน้า พร้อมทำสำเนา 10 ชุด เพื่อมอบให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล วางประเด็นต่อสู้หลายระดับ ตั้งแต่ภาพใหญ่และค่อยๆย่อยลงมาเราสู้ทุกมุมทุกเหลี่ยมประตู ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง พรรคก้าวไกลจะยื่นคำร้อง ขอให้มีการไต่สวนและสืบพยานเพิ่มขึ้นอีก สุดท้ายต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ มีความเห็นอนุญาตให้ไต่สวนเพิ่มเติม เรียกพยานเอกสารหลักฐาน ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ถ้าเปิดให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ น่าจะมีการไต่สวน แต่ถ้าศาลบอกว่า ข้อเท็จจริงเท่านี้เพียงพอแล้ว ก็ไม่ต้องไต่สวน
นายชัยธวัชกล่าวว่า ผู้บริหารพรรคเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ ตอนนี้เร็วไปที่จะหาพรรคใหม่ ยังต่อสู้อย่างเต็มที่ ไม่สมเหตุสมผลที่จะยุบก้าวไกล แม้ว่าจะมีคำวินิจฉัย ก่อนหน้านี้เป็นไปตามมาตรา 49 เป็นคดีที่วินิจฉัยคนละประเด็นกัน เพียงเพื่อให้หยุดการกระทำ ดังนั้นการพิจารณาข้อเท็จจริง การวางหลักกฎหมายวินิจฉัยคดีใหม่ ซึ่งมีความมุ่งหมายร้ายแรง ในการยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมือง เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคดีก่อนหน้านั้น
ขณะที่นายพิธา เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล ทำงานเต็มที่ทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 9 มิ.ย.จะมีการแถลงใหญ่ที่พรรค เตรียมคำชี้แจงไว้ 8 ประเด็น เช่น ขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ข้อชี้แจง ในข้อกฎหมายมาตรา92 และ 93 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 และมาตรา 93 และคดีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อม.ค. จนมาถึงคดีนี้ ไม่ผูกพันกัน เป็นประเด็นน้ำจิ้มเบื้องต้น ที่จะนำมาเป็นข้อต่อสู้
นายพิธามองว่า คดีของนายเศรษฐา ทวีสิน คดีของนายทักษิณ ชินวัตร และคดียุบพรรคก้าวไกล ล้วนเกิดจากกระบวนการนิติสงคราม การใช้ขอบเขตทางกฎหมายที่ล้นเกิน คดีของนายเศรษฐา ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้องค์กรอิสระในการตรวจสอบ ประเด็นการแต่งตั้งรัฐมนตรีของนายเศรษฐา แต่ควรใช้กลไกลการตรวจสอบจากในสภาฯมากกว่า ทั้งนี้ ยอมรับว่า ประเด็นต่างๆอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล การเป็นเอกภาพรัฐบาลควรมุ่งที่แก้ปัญหาให้ประชาชน เช่น เรื่องราคาพลังงาน อยากให้รัฐบาลมีสมาธิ ไม่ใช่มุ่งไปในประเด็นเพื่อรักษาอำนาจเท่านั้น แต่ต้องแก้ปัญหาต่างๆให้สำเร็จ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะกำบังที่ดีให้รัฐบาล
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.