จากพ.ค.ถึงก.ค. จุดวัดใจ ชี้ชะตาการเมือง ทักษิณ-เศรษฐา-ก้าวไกล-กปปส.-สว.67

10เดือน การบริหารงาน 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี เผชิญมรสุมการเมือง ตลอดเวลาบริหารประเทศ ได้รับทั้งคำชม เสียงติติง ทั้งในแง่การบริหาร เชิงนโยบาย ในช่วงที่ ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ ได้รับการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยที่ไม่ถูกควบคุมจาก ราชทัณฑ์ ก็ย้ำเพียงเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีอภิสิทธิ์ชน 2มาตรฐาน ผลจากศึก 2นายพลตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ทำให้เศรษฐา ได้รับผลกระทบไปด้วย 

ไม่เว้นแม้แต่ ในสมัยที่ ยังไม่ปรับตัวเองออกจาก รมว.คลัง มีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยประกาศลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01%

 ผู้เล่นหลายราย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ในช่วงยอดออกมาไม่เป็นตามเป้า น่าจะโดนใจมาตรการนี้ ก็เป็นในช่วงเดียวกันที่ กดดันเปลี่ยนตัว ผู้ว่าแบงก์ชาติ และจี้ให้กนง.ลดดอกเบี้ย

การเดินสายไปต่างประเทศ เจรจาการค้า เปิดตลาดใหม่ และชักชวนนักลงทุน ผ่านเมกะโปรเจ็กต่างๆยังเป็นเครื่องหมายคำถาม ถึงผลสำเร็จที่จะเกิดกับประเทศ 

สุดยอด Big Project ทั้งหลายของรัฐบาล เคยโหมประโคม แลนด์บริดจ์ ในวันนี้ไปถึงไหน เสียงตอบรับเม็ดเงินที่คาดจะมาลงทุน เป็นไปในทิศทางใด ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท สมัยหาเสียง 16ปีขึ้นไปได้ทุกคน ไม่กู้ ก็มาปรับเปลี่ยนเงื่อนไข เป็นรูปแบบอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ก็ต้องตามลุ้นกันอีกรอบ ปลายปี จะได้ใช้กันถ้วนหน้า เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างที่คาดหวังหรือไม่  

เศรษฐา ทวีสิน ก้าวเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศได้ 10 เดือน ปรับคณะรัฐมนตรีไปแล้ว 1 ครั้ง จัดโครงสร้างการทำงานเพื่อความคล่องตัว แต่ด้วยหลายสาเหตุรุมเร้า 3 รัฐมนตรีขอลาออก โดยเฉพาะครั้งล่าสุด การลาออกของ 'พิชิต ชื่นบาน' ลาออกจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หวังจะ ลดทอน ลดกระแสความร้อนแรงจาก 40 สว. เข้าชื่อยื่นส่งต่อ ประธานวุฒิสภา พิจารณาส่งต่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรี ทั้งของนายพิชิต จากผลพวงคดี โทษครั้งเก่า และ เศรษฐา ในฐานะผู้ยื่นนำเสนอรายชื่อให้ลดลง

กลายเป็นว่า วันที่23พ.คศาลรัฐธรรมนูญ จำหน่ายคดีนายพิชิต ขณะเดียวกัน มีมติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องนายเศรษฐา ไว้พิจารณา และมติ 5 ต่อ 4 ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เวลา 15 วัน ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
 

เศรษฐา มีท่าทีหวั่นวิตก พร้อมกับตั้งรับ เตรียมหารือคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เพื่อส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตามระยะเวลาที่กำหนด จากกรณี เศรษฐา ที่ยังมองในแง่มุมต่างๆ ‘ความผิดสำเร็จแล้ว’ หรือ อาจยังพอมีช่องทางกฎหมาย นำมาสู่การแก้ข้อกล่าวหา จนพ้นข้อกล่าวหาได้ ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป

แต่ไม่ว่าอย่างไร ผลจากคดี เศรษฐา ส่งผลสั่นสะเทือน เชื่อมโยงไปถึง บุคคลอยู่นอกวงแต่เต็มไปด้วยอำนาจ ทักษิณ ชินวัตร อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อการ ล้มบิ๊กดีล เปลี่ยนบิ๊กดีล การเคลื่อนไหวล้ำเส้น ไปจากข้อตกลง นำมาสู่ การเดินเกม โค่นนายกฯ ที่เป็นการบีบเศรษฐา เขย่าไปถึง ทักษิณ ในตัว ต่อการเคลื่อนไหวนับจากนี้ ให้ต้องระมัดระวังมากขึ้น

ไล่เรียงเหตุการณ์ ไม่ใช่จะมีเพียงเฉพาะกรณี เศรษฐา เพียงอย่างเดียว เมื่อนำปฏิทินการเมืองนับจากพฤษภาคมเป็นต้นไป มีเรื่องร้อนๆให้ต้องจับตา จากเหตุการณ์ สู่ เหตุการณ์ อย่างมีนัยยะสำคัญ

-23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง เศรษฐา ทวีสิน นายกฯไว้พิจารณา แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้เวลา 15 วัน ในการทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 

-29 พ.ค. อัยการสูงสุด นัดทักษิณฟังผลการพิจารณา คดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง

-2 มิ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาครั้งสุดท้าย พรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คดียุบพรรค 
ในการประชุมครั้งต่อไป ศาลอาจจะกำหนดนัดฟังคำวินิจฉัย ออกมา 

-7 มิ.ย. ครบ 15 วัน ตามที่้ศาลรัฐธรรมนูญให้เศรษฐา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 
ถ้าไม่มีการขอขยายเวลา ศาล อาจจะกำหนดวันนัดฟังคำวินิจฉัย ที่มีการคาดการณ์อาจเป็นไปได้ทั้งในช่วงปลายมิถุนายน หรือ กรกฎาคม   

-9มิ.ย. เข้าสู่การเลือกสว.ระดับอำเภอ

-16มิ.ย. เลือกสว. ระดับจังหวัด 

-26มิ.ย. เลือกสว.ระดับประเทศ 

-27 มิ.ย. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในความผิดฐานร่วมเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ช่วงที่กปปส.ชุมนุมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี2556 - 2557 มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกอีก 39 คน เป็นจำเลย

-2ก.ค. ไทม์ไลน์เดิม กกต. เคยนำเสนอครม. จะมีการประกาศผลการเลือกสว.ออกมา แต่ภายหลัง กกต.ระบุว่า จะประกาศผลว่าที่ 200สว. ชุดใหม่ ได้ภายในเดือน กรกฎาคม โดยขอไม่ได้ระบุวันแน่ชัด เพียงแต่ย้ำว่าจะอยู่ในช่วงก.ค. 

ปฏิทินการเมือง ไทม์ไลน์ร้อน นับจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เต็มไปด้วย เหตุการณ์สำคัญๆ ผลจากคดี112 ทักษิณ กับบิ๊กดีล การเคลื่อนไหว ผลการปฏิบัติหน้าที่อย่างพะว้าพะวง ระหว่างรอคำตัดสินวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญของเศรษฐา ช่วงสุญญากาศ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นไม่น้อย กลุ่มผู้เล่น ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อฉากหน้า เบื้องหลังการเมือง สุเทพ กลุ่มกปปส. ผลคำพิพากษาศาลจะลงเอยอย่างไร 

การเลือกสว.67 เริ่มเข้มข้นเร้าใจทุกขณะ เรื่องร้องเรียน ปัญหาตามมาสุดยากจะคาดเดา วุ่นวายมากน้อยเพียงใด ส่งผลต่อการประกาศผลว่าที่สว.200คน ได้ตามไทม์ไลน์เดิม ก.ค. หรือไม่ ยังไม่นับรวม การเตรียมตัดสินชี้ชะตากรรม ยุบ-ไม่ยุบพรรรคก้าวไกล ที่จะตามมา แต่ละเรื่อง แต่ละราวล้วนเขย่าการเมือง ชนิดที่อาจเกิด สึนามิ effect ให้ตามมาอีกระลอกได้เลยทีเดียว