นายกรัฐมนตรี นำครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณ 5ก.ย. เผยใช้เวลา2วัน แถลงนโยบายรัฐบาล

ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงขั้นตอนภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ มีกำหนดเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณรับตำแหน่ง ในวันอังคารที่ 5 กันยายน เวลา 17.00 น. จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 8-9 กันยายน หรือ 11-12 กันยายน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 วัน อาจจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อเตรียมการหารือ และสรุปนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ที่ขณะนี้ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว และเมื่อการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น จะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก

นายเศรษฐากล่าวถึงกรณีนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ไม่มีชื่อปรากฏเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า เนื่องจาก นายไผ่ ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องคุณสมบัติ จึงขอถอนตัว เพื่อให้การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินสามารถเดินหน้าต่อไปได้ สัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐยังคงอยู่ ตนจะยังไม่เสนอแต่งตั้งใครเข้าไปทำหน้าที่แทน เมื่อพรรคพลังประชารัฐ ตรวจสอบชัดเจนแล้ว ยังมีสิทธิขอเสนอแต่งตั้งใหม่ได้ เช่นเดียวกับ นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความของครอบครัวชินวัตร ที่ขอถอนตัวจากรายชื่อที่จะขอเสนอแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายพิชิต เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่มีข้อติติงมาก และไม่อยากให้คณะรัฐมนตรีลำบากใจ จึงขอถอนตัว

"ไม่รู้สึกหนักใจใดๆ ก่อนการเข้าบริหาราชการแผ่นดินร่วมกับ 11 พรรคร่วมรัฐบาล เข้าใจว่า ทุกพรรคการเมืองและรัฐมนตรีทุกคนตระหนักถึงปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะต้องแก้ไข และเดินหน้าทำงานทุกวัน หยิบยกปัญหาใหญ่ๆ ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาแก้ไขให้ครบ จึงไม่กังวลใดๆ เพราะได้พูดคุยกับรัฐมนตรีหลายๆ คนมาแล้ว และมีความเป้นห่วงปัญหาของบ้านเมือง"นายเศรษฐากล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตอบรับที่จะร่วมเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 หรือ UN General Assembly: UNGA 78 ที่จะจัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันที่ 18-26 กันยายน โดยจะออกเดินทางในวันที่ 18 กันยายน และเริ่มปฏิบัติภารกิจในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่งคณะเดินทาง จะมีรัฐมนตรีหลายคนร่วมเดินทางไปด้วย อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ