ศาลปกครองสั่งปรับป.ป.ช.1หมื่นบาทปมเปิดสำนวนนาฬิกาหรู"บิ๊กป้อม"ไม่ครบ

นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น(คปต.)ได้โพสต์ข้อความพร้อมคำสั่งศาลปกครองกลางฉบับลงวันที่ 2 พ.ค.67 ที่มีคำสั่งปรับเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ รายละ 5,000 บาทโดยให้ชำระค่าปรับต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งศาล

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าหากไม่ชำระค่าภายในกำหนด ศาลอาจมีคำสั่งให้มีการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าหน้าของรัฐต่อไปและให้ทั้งสองปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ. 224/2566 ที่ให้เปิดเผยรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนคดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรทราบจากการไม่แสดง ว่ามีนาฬิกาข้อมือและแหวนประดับหลายรายการ ต่อป.ป.ช. รวมถึงเปิดเผยความคิดเห็นของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่รับผิดชอบในการ ไต่สวนดังกล่าว และรายงานการประชุมคณะ กรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิด เผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหาร ราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ให้ถูกต้องครบถ้วนแก่นายวีระ สมความคิด ภายใน 15วัน นับ แต่วันที่ทราบคำสั่งนี้

ศาลระบุเหตุผลถึงการมีคำสั่งดังกล่าวว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วนและล่าช้าเกินสมควร โดยไม่มีเหตุอันสมควรศาลปกครองจึงมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองชำระค่าปรับต่อศาล ตามมาตรา 75/4 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ประกอบข้อ 4 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปรับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มิได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วนหรือปฏิบัติล่าช้าเกินสมควร 2560

นายวีระ ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวส่งมาถึงในช่วงเย็นวันพุธที่ 8 พ.ค.67 วันที่รอคอยมาถึงแล้ว และหลังจากนี้ จะทำการยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริต เพื่อนำผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไปรับโทษในคุก เพราะคำสั่งศาลปกครองกลางดังกล่าวคือหลักฐานที่ยืนยันว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้กระทำความผิดจริง ตามที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองรีบบังคับคดีกับผู้ถูกฟ้องทั้งสอง กรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมีเจตนาท้าทายอำนาจศาลปกครอง ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ทั้งๆที่คดีถึงที่สุดแล้ว ไม่ยอมให้เอกสารที่เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีนาฬิกา 22 เรือน ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้ง 3 รายการแก่ตน

ต่อมาศาลปกครองกลางต้องเรียกคู่ความทั้งสองมาทำการไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 16 ก.พ.67 ในที่สุดศาลปกครองกลางก็มีคำสั่งลงวันที่ 2 พ.ค.67 โดยสรุปว่า ที่ผ่านมาผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วน และล่าช้าเกินสมควร โดยไม่มีเหตุอันสมควร ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งลงโทษให้ปรับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง และบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา ภายใน 15 วัน  นับแต่ได้รับทราบคำสั่งนี้ 

ที่มา เฟซบุ๊ก วีระ สมความคิด

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.