เลขา กกต. แนะประชาชนติดตามเลือก สว.-สื่อเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โพสต์เฟซบุ๊ค เกี่ยวกับแนวทางสำหรับ ประชาชน สื่อ ผู้สมัคร นักการเมืองในการเลือก สว. หลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว. ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะไม่ขัดกับระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัว ดังนี้
ประชาชน : 1) ไม่มีสิทธิเลือก สว. ตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ให้สิทธิในเรื่องนี้ (มียังไม่ทราบ/ไม่เข้าใจ/หรือแกล้งไม่เข้าว่า ทำไม กกต.ไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเลือก หรือไปตัดสิทธิประชาชน รวมทั้งรูปแบบการเลือก ไม่ใช่ กกต.แต่เป็นกฎหมายกำหนด (2) ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก สนง กกต. เกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มสาขาอาชีพใด ทั้ง 20 กลุ่ม ในชั้นอำเภอ 928 อำเภอ ชั้นจังหวัด 77 จังหวัด และ ระดับประเทศ ได้ที่ แอพพลิเคชั่น smart vote และเว็ปไซต์ สำนักงาน กกต.
( 3) ติดตามข้อมูลข่าวจากสื่อ ต่างๆ ซึ่ง สนง กกต. จะเผยแพร่ข้อมูลต่างๆที่ประชาชนควรรู้ผ่านสื่อให้มากที่สุด (4) วันเลือกตั้ง สามารถไปสังเกตการณ์การเลือก “ทุกที่เลือกตั้ง” ทั้งใน ชั้นอำเภอ ชั้นจังหวัด และระดับประเทศ โดย สนง.จะจัดให้มีโทรทัศน์วงจรปิด ถ่ายถอดบรรยากาศภายใน “ที่เลือกตั้ง ” ให้ดูตลอดการลงคะแนนจนปิดเวลาลงคะแนน และ (5) สังเกตการณ์ ตรวจตรา ตรวจสอบ แล้วแจ้ง กกต. ว่ามีผู้สมัคร พรรคการเมืองใด หรือผู้ใด แนะนำไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือฝ่าฝืน กม.
ส่วนสื่อสามารถทำได้ คือ ( 1) เสนอข่าวได้ตามปกติ ตามหลักวิชาชีพ อาทิ รายงานข่าวในที่เลือกตั้ง ใครสมัครในกลุ่มสาขาอาชีพใด วิเคราะห์ จัดเวที เสนอข้อเท็จจริง สัมภาษณ์ผู้สมัครเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้ แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้ถูกสัมภาษณ์ สื่อที่สมัคร สว. ทำหน้าที่การงานได้ตามปกติแต่อย่าไปพูดแนะนำตัวว่าสมัคร สว. มีประวัติหรือประสบการ์อย่างไร เป็นต้น
ทั้งนี้ เนื่องจากระเบียบที่ออกมา ออกมาเพื่อใช้บังคับกับผู้สมัคร ไม่ได้ใช้บังคับกับสื่อ อย่างไรก็ตาม ขะต้องพึงระวังในการทำหน้าที่สื่อ ต้องไม่เป็นช่วยเหลือการแนะนำตัวผู้สมัครรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพา และสังเกตการณ์ในวันเลือก ในที่เลือกเช่นเดียวกับประชาชน
ขณะที่แนวทางของผู้สมัครต้องแนะนำตัวตามที่ กฎหมายและระเบียบที่ กกต. กำหนด ทำมากไปกว่านั้นอาจถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือถ้าเป็นโทษเกี่ยวกับการทุจริต เช่น รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิแต่มาสมัคร ซื้อเสียง หลอกลวง รับการช่วยเหลือจากคนของพรรคการเมือง จะมีโทษอาญาด้วย คือทั้งโทษจำคุกและปรับ นอกจากนี้สำหรับนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองต้องไม่ไปช่วยเหลือผู้สมัคร สว. นั้นหมายถึงการห้ามพรรคการเมืองไปโดยปริยาย
และเมื่อดูจากรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ได้ให้สิทธิกับประชาชนในการเลือก แต่นั้นเป็นเพียงอย่างเดียวที่ประชาชนถูกตัดสิทธิไป ส่วนการมีส่วนร่วมอย่างอื่น ประชาชนก็ยังมีส่วนร่วมเหมือนเดิม เหมือนการเลือกตั้งโดยทั่วไป เรื่องนี้สำนักงานได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นอย่างดี จึงได้ออกแบบให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม สังเกตการณ์การรเลือก สว. ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา จนถึงวันลงคะแนน อย่างใกล้ชิด ตาม ข้อ 2)และข้อ 3) ที่ได้กล่าวมาแล้ว
พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าทุกฝ่ายอยู่ถูกที่ ถูกทาง จะช่วยทำให้การเลือก สว. เป็นไปด้วยความเรียบ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.