ผ่าเกม'บิ๊กโจ๊ก'ฟ้องดะ เล่นใหญ่ หวังรอด ชนะฟาวล์

กรณี บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. ฟ้องดะ เล่นใหญ่ หลังนายกฯเศรษฐา ทวีสิน สั่งโอนย้ายกลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมารักษาการราชการแทนผบ.ตร.พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ มีคำสั่งให้ออกจากราชไว้ก่อนกรณีถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินโยงเว็บพนันออนไลน์
 

หากอ่านเกม ฟ้องดะ เล่นใหญ่ ของบิ๊กโจ๊ก ในช่วงเวลานี้ ความต้องการของ 'บิ๊กโจ๊ก' คือ

1.เพื่อต้องการชนะฟาวล์ 

• ล้มคดี อ้างว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบดำเนินคดี เป็นการฟ้องกล่าวหาโดยมิชอบ 
• โดยหลักการสอบสวนคดีอาญา หากกระบวนการสอบสวนกระทำโดยมิชอบ ขัดต่อกฏหมายหรือพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล ศาลจะยกฟ้องทันที โดยไม่ต้องดูเนื้อหาหรือข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวน 
   

2.ประเด็นการฟ้องร้องนายกฯเศรษฐา 

• เป็นการชกข้ามรุ่น เล่นใหญ่ระดับผู้นำประเทศ 
• กดดันฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบาย (ในทางคดีด้วย) ซึ่งอาจทำให้คดีความสะดุดหยุดลง 
• หวังให้ฝ่ายปฏิบัติ (ตำรวจ องค์กรอิสระ) รอดูึวามชัดเจนของฝ่ายการเมือง 
• ถือเป็นการเขย่านายกฯเศรษฐา ซึ่งมีประวัติเป็นนักธุรกิจ ไม่มีความเชี่ยวชาญการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีทีมกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญระบบราชการ 

3.พาดพิง "บิ๊กป้อม" พล.อ.พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นพยานปากเอก กรณียื่นคำร้องต่อป.ป.ช.คัดค้านการทำหน้าที่ของกรรมการป.ป.ช.รายหนึ่ง 

• แม้ไม่มีข้อความกล่าวหาพาดพิงในทางลบเพราะไม่ได้ระบุว่าใช้อำนาจหน้าที่หรือบารมีช่วยเหลือ กรรมการป.ป.ช.ที่ถูกกล่าวหา 
• การเอ่ยถึงชื่อ บิ๊กป้อม เหมือนกับการส่งสัญญาณทางการเมือง เช่นอาจต้องการให้ บิ๊กป้อม ซึ่งเชื่อว่ามีบารมีแผ่กว้างทุกวงการ ทุกองค์กร ให้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในคดีที่บิ๊กโจ๊กถูกกล่าวหาหรือไม่

ทั้ง3แนวทางข้างต้นถือเป็นกลยุทธ์ ที่ถูกวางแผนด้วยยุทธศาสตร์ เป็นทางรอดของ 'บิ๊กโจ๊ก' ที่เจ้าตัวแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าจะรอดพ้นจากข้อกล่าวหา ได้กลับมาเป็นตำรวจอีกครั้งเพื่อก้าวสู่อำนาจในตำแหน่งผบ.ตร.