'จักรภพ เพ็ญแข'ถึงไทยไปรับทราบข้อหาคดีค้างเก่าที่กองปราบ

นายจักรภพ  เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช พ.ศ.2551 และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร พ.ศ.2546 - 2548 เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว หลังลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชาเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจมารอรับพาตัวไปที่กองปราบปรามทันที

ก่อนหน้านี้ นายจักรภพ มีหมายจับในคดีอาญา 9 หมาย และผ่านกระบวนการยุติธรรมหลายขั้นตอน จนในปัจจุบันมีหมายจับเหลืออยู่ 1 คดี คือ ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจรศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 โดยมีอายุความ 20 ปี

สำหรับนายจักรภพเคยมีบทบาทสื่อมวลชน เป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี อดีตผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ เคยโดนฟ้องร้องคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อเรื่อง “ระบบอุปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2550 ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (เอฟซีซีที) แต่อัยการสั่งยกฟ้อง เมื่อช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2554

นอกจากนี้ นายจักรภพ มีบทบาทในการก่อตั้ง นปก. แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ก่อนจะขยายตัวมาเป็น นปช. ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศ ในช่วงพ.ศ.2552 หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ.2557 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้นายจักรภพไปรายงานตัว แต่ไม่ได้ไปรายงานตัว ทำให้ศาลทหารออกหมายข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว และถูกกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ในพ.ศ.2560

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 00.85 น.วันที่ 28มี.ค.67 นายจักรภพ โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก คามยาว 4.26 นาที เนื้อหาดังนี้

สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน ผมจักรภพ เพ็ญแข ออกจากเมืองไทยมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และวันนี้กำลังจะเดินทางกลับเมืองไทย ไปพบกลับพี่น้องชาวไทยที่รักและคิดถึงมานาน

ผมออกมาอยู่ต่างประเทศ เพราะมีเหตุผลทางด้านการเมือง ผมเชื่อว่าพี่น้องหลายท่านคงทราบดี ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถที่เพื่อนขับพาไปสนามบิน ไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน จะไปถึงเมืองไทยวันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม เวลา 07.35 น. เดินทางตรงไปเลย

ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมหายไปนานเหลือเกิน จู่ๆโผล่หน้ามา พี่น้องหลายท่านก็มีสิทธิ์จะถามว่า เกิดอะไรขึ้น ตอนหายก็หายไป ตอนมาก็มา เล่าสู่กันฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็ขอเรียนสั้นๆ ว่า เรามีความขัดแย้งทางการเมืองกันอยู่ตอนนั้น ผมก็ถืออยู่ข้างหนึ่ง พี่น้องอีกจำนวนมากก็ถืออยู่อีกข้างหนึ่ง แล้วเราก็เกิดความขัดแย้ง จนผมออกมาอยู่นอกประเทศ เพราะมีความคงในเรื่องอันตราย สวัสดิภาพส่วนตัว 

หลังจากนั้นผมก็ติดตามเหตุการณ์ในบ้านเมืองไม่เคยทิ้งเลย เหมือนอยูในประเทศไทย ทุกวันๆ ตลอด 15 ปีนี้ แต่ไม่สามารถกลับเมืองไทยได้ เนื่องจากว่าเหตุการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยให้.

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.