พิชาย'ฟันธง'ทักษิณ'ไม่เสี่ยงเปลี่ยนนายกฯ จับตาปรับครม.เม.ย.67

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษกลับบ้านพักจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 18ก.พ.2567 มีการเปิดม่านรถตู้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อต้องการแสดงให้เห็นในทางการเมืองว่าได้กลับมาแล้ว

ที่ผ่านมาระหว่างถูกคุมตัวในรพ.ตำรวจ นายทักษิณถูกมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักแต่ภาพที่ออกมาเมื่อวันที่ 18ก.พ.2567ไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่ามีอาการป่วยหนักแต่อย่างใด ตอกย้ำให้เห็นว่า นายทักษิณและกลไกของระบบราชการและรัฐบาล ก็ใช้สิ่งที่เรียกว่า 'นิติอภิสิทธิ์อย่างเต็มที่'เย้ยหยันความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่ยังคิดว่าบ้านเมืองนี้ยังมีหลักนิติรัฐ นิติธรรม  

"ลองนึกสภาพผู้ป่วยติดเตียงทั่วไปในช่วงเวลา6เดือน ผู้ป่วยต้องดูซูบผอมเพราะได้แต่น้ำเกลือไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แต่คุณทักษิณอยู่ครบ180วันดูร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะออกจากรพ.เมื่อครบกำหนด ดังนั้นสิ่งที่รพ.ตำรวจและกรมราชทัณฑ์พูดมาในอดีตสิ้นความน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิงท้าทายความรู้สึกของสังคม" รศ.ดร.พิชาย กล่าว 

รศ.ดร.พิชาย วิเคราะห์ว่า ปรากฏการณ์นายทักษิณ ออกจากรพ.ตำรวจ มีการวางแผนมาตลอด เป้าประสงค์คือนายทักษิณไม่ต้องการติดคุกและสามารถทำได้ตามที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่ามีอำนาจครอบงำกลไกได้ทั้งหมด ไม่มีใครประกาศก่อนแล้วทำได้เหมือนนายทักษิณเป็นคนเดียวที่ทำได้ แสดงให้เห็นว่า รัฐไทยไม่สามารถต้านทานอำนาจของนายทักษิณได้ จึงกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคมในปัจจุบัน

รศ.ดร.พิชาย ระบุอีกว่า หลังจากนี้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจะเป็นสถานที่ตัดสินใจทางการเมืองในเรื่องสำคัญ ที่บ้านคงหัวบันไดไม่แห้งเพราะยังมีนักการเมืองที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดของนายทักษิณเข้าไปปรึกษาหารือ จากนี้ไปจะเห็นการตัดสินต่างๆทางการเมืองต่างไปจาก6เดือนที่ผ่านมา หลังการเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แต่การจะอยู่ต่อไปของนายเศรษฐา ทวีสิน ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าการมีนายเศรษฐา เป็นผลลบผลเสียในทางการเมืองกับเพื่อไทยการจะให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยขึ้นมาดำรงตำแหน่งเชื่อว่าจะกลายเป็นที่วิจารณ์ทางการเมือง เพราะอาจทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านายเศรษฐา หรือดึงคนจากพรรคการเมืองอื่นมาเป็นนายกฯก็ดูไม่มีความชอบธรรม 

"จุดชี้ขาดคือโครงการแจกเงินดิจิทัล10,000 บาท หากผลักดันไม่ได้ ก็กระทบต่อคะแนนนิยมเพื่อไทย หากนายเศรษฐา ยืนยัน ก็มีความเสี่ยงทางกฎหมาย อยู่ในความเสี่ยงมากที่สุดที่จะถูกฟ้อง เกิดอาการละล้าละลังหากเปลี่ยนก็ต้องเอาคนอื่นที่กล้าทำ เอาแพรทองธาร เป็นนายกฯ ต้องถามใจนายทักษิณ จะกล้าหรือไม่ เพราะต้องให้แบกความเสี่ยงแทน เป็นเงื่อนไขหากไม่เดินหน้าต่อต้องปรับโครงการแจกเงินดิจิทัลลดความเสี่ยง ไม่กู้ใช้เงินในงบประมาณแทน มีความปลอดภัยมากกว่า"

รศ.ดร.พิชาย วิเคราะห์ว่า ช่วงเม.ย.2567 จะมีการปรับครม.ในปีกเพื่อไทยแต่งหน้าแต่งตัวใหม่ เพราะ6เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ยินเสียงรัฐมนตรีของเพื่อไทย ไม่มีคนใดทำงานโดดเด่นหรือมีผลงานอะไรตัวนายกฯ อาจไม่ปรับแต่การเอาชนะคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องยาก เพราะพรรคเพื่อไทยขณะนี้เป็นปีกเดียวกันกลุ่มอำนาจเก่าทำให้กลุ่มคนที่เคยเลือกเพื่อไทยผิดหวังกับเพื่อไทยในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ช็อคกับเพื่อไทย ดังนั้นการมาของนายทักษิณ คือต้องดึงคะแนนคนที่ภักดีกับเพื่อไทยไม่ให้เปลี่ยนใจ 
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.