'พิชัย'จี้ธปท.ลดดดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์พาณิชย์ช่วยศก.ไทยขยายตัว
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย และ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.4% ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 2566 อยู่ที่เพียง 1.8% ซึ่งนับว่าต่ำมาก ซึ่งตรงกับที่ตนได้เตือนไว้แล้วว่าเศรษฐกิจปี 2566 จะขยายได้ไม่ถึง 2.4-2.5% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน ทั้งที่ทั้งสองหน่วยงานลดการคาดการณ์จากเดิมที่ 3.6% ลงมาแล้วแต่ก็ยังไม่ถึง
ดังนั้นอยากให้ ธปท. และ สภาพัฒน์ฯ ได้คาดการณ์เศรษฐกิจตามความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมาทุกปี การคาดการณ์ผิดพลาดอย่างมากมาโดยตลอด และ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ ก็จะไม่ดีเช่นกันถ้าหากไม่เร่งช่วยกันแก้ไขปัญหา และช่วยสนับสนุนแนวทางใหม่ๆ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น แต่เกี่ยวกับทุกแนวทางที่สามารถทำได้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาไปมากกว่านี้
การที่ผู้ว่าฯ ธปท. ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ (รอยเตอร์) ว่าเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤตแต่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ จึงอยากจะถามว่าถ้าขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ไว้มากเป็นเวลานาน 10 ปีติดต่อกัน เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ ถือเป็นวิกฤตในอีกรูปแบบหนึ่งใช่หรือไม่ และ ตั้งแต่ปี 2563 ที่ผู้ว่าธปท. เข้ารับตำแหน่งจนจะครบเทอมในปลายปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในแดนลบมาตลอดไม่ทราบว่าท่านผู้ว่า ธปท.ทราบหรือไม่ เพราะในปี 63 ที่ท่านผู้ว่า ธปท. เข้ารับตำแหน่ง เศรษฐกิจไทย ติดลบหนักที่ - 6.1% โดย 3 ปีต่อมา ปี 64 ( ขยาย +1.6%) ปี 65 (ขยาย +2.6%) ปี 66 ( ขยาย 1.8%) รวมกัน (1.6% +2.6%+1.8% = 6%) ซึ่งยังไม่ถึงที่ตกลงมาเลย เท่ากับประเทศไทยอยู่กับที่หลังจาก 4 ปีแล้ว
ซึ่งหากตนเป็นผู้ว่าธปท. ตนจะต้องรู้สึกกังวล เดือดร้อน และ ผิดหวัง เพราะประเทศส่วนใหญ่ขยายตัวในปี 64 มากกว่าปี 63 ที่ตกลงมาแล้ว และปัจจุบัน บางประเทศยังขยายตัวเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 15-20% ด้วยซ้ำ เช่น ประเทศเวียดนามตั้งแต่ปี 63 เศรษฐกิจขยายตัวได้มากกว่า 20% แต่ไทยกลับยังอยู่กับที่
ถ้าหากท่านผู้ว่า ธปท. ไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ท่านผู้ว่า ธปท. ก็น่าจะมีปัญหาในวิธีคิดแล้ว อีกทั้งจากการสำรวจของรายการคุณสรยุทธในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ พบว่า 93% ของประชาชนเห็นว่าเศรษฐกิจวิกฤต โดยมีผู้เข้าโหวตถึงกว่า 2.4 แสนคน ท่านผู้ว่าธปท. คงต้องไปอธิบายให้คน 93% เหล่านี้เข้าใจว่าทำไมถึงไม่วิกฤต
การที่ผู้ว่า ธปท. สัมภาษณ์ว่าการที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากขึ้นต้องปรับโครงสร้าง ดังนั้นจึงอยากถามว่าท่านผู้ว่าฯ ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับโครงสร้างบ้าง ถ้านึกไม่ออก ตนจะขอเสนอแนวทางการพิจารณาโดยเริ่มต้นจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารพาณิชย์ลง เพื่อให้ช่วงห่างระหว่างเงินกู้และเงินฝากลดลง เพื่อลดภาระของประชาชนและผู้ประกอบการ ทั้งนี้เข้าใจดีว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับลงยังไม่ได้เพราะต้องคำนึงผลกระทบหลายทาง แต่การลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์โดยลดช่วงห่างของเงินกู้เงินฝากลง ธปท. สามารถบังคับทำได้ทันทีและควรต้องเร่งทำ
ทั้งนี้ อาจทำผ่านคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) อย่าปล่อยให้รายได้ จีดีพี ที่เพิ่มขึ้นไปตกอยู่กับธนาคารพาณิชย์เกือบทั้งหมดเพราะกำไรของธนาคารพาณิชย์กว่า 2.2 แสนล้านบาทนั้นมากกว่า 1% ของจีดีพีแล้ว และต้องให้ธนาคารพาณิชย์กระจายการปล่อยกู้ให้เข้าถึงรายย่อยและ SMEs ด้วย โดยเฉพาะการช่วยเหลือ SMEs ที่ขาดสภาพคล่องแต่ธุรกิจยังมีอนาคตที่จะไปรอดได้
นอกจากนี้ในปี 2567 นี้ คาดกันว่าสภาพคล่องในระบบการเงินและการธนาคารจะเป็นปัญหา ซึ่งจะฉุดให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำลง จึงอยากถามว่า ธปท. ได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างไร อีกทั้ง พันธบัตรเงินกู้ ตราสารหนี้ และ หุ้นกู้ของหลายบริษัทกำลังจะมีปัญหาการชำระไถ่ถอน ธปท. เตรียมรับมืออย่างไร
และที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้ ธปท. กลับไปทบทวนว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา การกำหนดนโยบายทางการเงิน การกำหนดอัตราดอกเบี้ย และ การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท. สนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยขนาดไหน และควรจะต้องปรับแก้อย่างไรเพื่อสนับสนุนให้เกิดการปรับโครงสร้างของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ เหมือนที่แบงก์ชาติของหลายประเทศที่มีความสามารถแข่งขันสูงทำกัน
อยากให้ท่านผู้ว่า ธปท. ได้มีโอกาสสัมผัสปัญหาของประชาชนที่รายได้ไม่เพิ่ม แต่รายจ่ายเพิ่ม หนี้สินเพิ่ม อีกทั้งหลายคนต้องไปพึ่งหนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหดที่รัฐบาลต้องโดดลงมาช่วยแก้ไขนี้ อย่าให้ประชาชนตำหนิได้ว่าท่านผู้ว่า ธปท. รับรายได้ถึงปีละกว่า 20 ล้านบาท จึงไม่รู้ว่าประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ผู้ใช้แรงงาน และ เกษตรกร มีความทุกข์ และความลำบากกันอย่างไร ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ท่านผู้ว่า ธปท. เร่งแก้ไข และ เลิกแก้ตัวได้แล้ว โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าในเวลาที่เหลือในตำแหน่งนี้ ท่านผู้ว่าฯธปท. จะช่วยให้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เท่าไหร่ เพราะจะเป็นประวัติศาสตร์การทำงานของท่านผู้ว่าฯ ธปท. เองไปชั่วชีวิต ท่านผู้ว่า ธปท คงไม่อยากให้มีประวัติการทำงานว่าบริหารนโยบายการเงินมาตลอด 4 ปี แต่กลับทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่กับที่ ไม่ได้มีการเจริญเติบโตเลย จะเป็นเรื่องที่น่าละอายหรือไม่
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.