ไทยภักดี ไม่เชื่อทักษิณป่วยหนัก สงสัยราชทัณฑ์ทำไมเปิดให้ญาติเยี่ยม

นายอนันต์ สาครเจริญ เหรัญญิกพรรคไทยภักดี  ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผ่านนายสมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะราย ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่า นายทักษิณ ต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอรัปชั่นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมากถึง 4คดี เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระ เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศอย่างย่อยยับ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ และยังมีพฤติกรรมหลบหนีการลงโทษไปต่างประเทศ ไม่เคารพยอมรับคำพิพากษาของศาลและกล่าวให้ร้ายกระบวนยุติธรรมของประเทศตลอดมา 

นอกจากนี้เห็นว่า การขอพระราชทานอภัยโทษ จะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการสร้างความอยุติธรรมขึ้นมาในประเทศ เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน ทำให้วาทกรรมที่ว่า"คุกมีไว้ขังคนจน"ปรากฎเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรม อย่างเคร่งครัด

ในสมัยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยึดนโยบายที่จะไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษในคดีทุจริตคอรัปชั่น เพื่อที่จะธำรงรักษาหลักธรรมาภิบาลแห่งรัฐไว้อย่างหนักแน่นมั่นคง ซึ่งควรเป็นนโยบายที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมจะต้องยึดถือสืบทอดเอาไว้  การดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายให้นายทักษิณจะเป็นแบบอย่างที่เลวร้ายต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะทำลายหลักธรรมาภิบาล 
 

นายอนันต์ กล่าวว่า  อยากให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน เพราะตั้งแต่ลงสนามบินมีตำรวจมารับทำความเคารพให้ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ แม้กระทั่งจะไปอยู่ห้องVIPของรพ.ตำรวจ และยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ จะต้องให้ความเท่าเทียมกับผู้ต้องขังรายอื่นๆโดยไม่มีอภิสิทธิชนในประเทศนี้ 

นอกจากนี้ จากการติดตามอาการป่วยของนายทักษิณตามข้อมูลของสื่อมวลชน ซึ่งเมื่อเข้าสู่กรมราชทัณฑ์แพทย์ลงความเห็นว่าป่วยหนักและย้ายไปโรงพยาบาลตำรวจ และอาการหนักควรจะต้องอยู่ไอซียูหรือไม่ แต่ทำไมยังเปิดให้เข้าไปเยี่ยมได้ถึง10คน ทำให้ตนเองไม่เชื่อว่านายทักษิณจะอาการหนักจริงๆ.