นายกฯเศรษฐาพร้อมแจงร่างงบฯปี67ไม่ตั้งทีมองครักษ์ปกป้อง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานพรให้มีความสุข พร้อมยังได้ตรัสสอบถามถึงปัญหาการบริหารบ้านเมือง 

 ส่วนความตั้งใจ และความคาดหวังของนายกรัฐมนตรีในการทำหน้าที่ปี 2567 นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า จะต้องให้ความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ และดูแลปัญหาประชาชนในทุกมิติเป็นหลัก ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ในทุกมิติ ไม่เฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญถึงสิทธิเสรีภาพการประกอบอาชีพ เพศสภาพ หรือแม้แต่สิทธิขั้นพื้นฐานอย่างอากาศบริสุทธิ์ของประชาชน และสิ่งใดที่สามารถแก้ไขได้ก็จะแก้ไขก่อน ซึ่งถือเป็นภารกิจใหญ่ พร้อมยืนยันว่า ตนเองจะยังคงทำงานหนักเหมือนเดิม และเต็มที่ รวมถึงรัฐมนตรีทุกคน จากทุกพรรค ก็มีความเต็มที่ในการทำงานเ่นเดียวกัน 

 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันความพร้อมในการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2567  โดยได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงก่อนปีใหม่แล้ว และมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีบางคนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาด้วย ซึ่งรัฐบาลพร้อมอธิบาย และชี้แจงต่อการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร และไม่กังวลว่า การพิจารณางบประมาณฯ จะกลายเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเชื่อว่า สส.แต่ละคนรู้หน้าที่การพิจารณางบประมาณขอตนเอง ซึ่งหากงบประมาณใดยังไม่ชัดเจน รัฐบาลก็พร้อมชี้แจงเต็มที่ เพื่อให้ สส.และประชาชนมีความเข้าใจที่ตรงกัน 

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีในการพิจารณาร่างงบประมาณฯ เพราะทุกคนมีหน้าที่ และรัฐบาลพร้อมชี้แจงต่อการสอบถามของ สส. 

ส่วนการแก้ปัญหา สส.ตบทรัพย์หน่วยงานราชการเพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณในชั้นกรรมาธิการนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองยังไม่เคยทราบในเรื่องดังกล่าว และเชื่อว่า สส.จะมีศักดิ์ศรี และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถรับได้ รวมถึง สส.รู้หน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องกำชับใด ๆ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพักค้างแรมที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ฤกษ์ค้างแรมสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งในช่วงแรกอาจจะไม่ได้ค้างแรมทุกวัน เพราะในวันที่ 7 มกราคมนี้ ตนเอง พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ จะร่วมกันเปิดตัวโครงการ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ที่จังหวัดร้อยเอ็ดอย่างเป็นทางการ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงการตราร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อนำมาดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต ตามกรอบดำเนินการเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคาดว่า ในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้า พร้อมย้ำว่า ไม่สามารถไปเร่งรัด หรือก้าวก่ายการทำหน้าที่ของกฤษฎีกาได้ 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.