พิธาเผย โพลบอกคนทุกวัยสนใจการเมืองเป็นพิเศษ ชี้รัฐบาลต้องทำตามสัญญา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองในขณะลงพื้นที่ อ.เขาชะเมา จังหวัดระยอง เพื่อช่วยนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ระยองเขต 3 หาเสียง ในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมาถึงวันที่ 10กันยายนนี้ ถึงกรณีผลโพลของ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับดีโหวต คะแนนนิยมหลังตั้งรัฐบาล-นายกฯ ซึ่งพบว่า คะแนนของพรรคก้าวไกล 62% จะเลือกพรรคก้าวไกลหากมีการเลือกตั้งใหม่ และคะแนนของพรรคเพื่อไทยก็ไหลมาอยู่พรรคก้าวไกลว่า สำหรับตนเองความรู้สึกก็ยังรู้สึกคงเส้นคงวา เกี่ยวกับการอ่านโพล ทั้งก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง และสิ่งที่จะสะท้อนได้ คงจะต้องอ้างอิงสื่อมวลชน ที่แสดงให้เห็นว่า ประชาชนทุกรุ่นทุกวัย สนใจการเมืองเป็นพิเศษ ทั้งนี้จึงต้องใช้ผลโพลเป็นกำลังที่จะเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไป และปรับปรุงในสิ่งที่ยังทำได้ไม่ดีพอ
เมื่อถามถึงโผครม. ที่ค่อนข้างชัดเจนว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มองอย่างไร นายพิธา ระบุว่า สำหรับกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี สิ่งที่สำคัญคือการกระจายอำนาจ เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกล ผลักดันมาโดยตลอด และหวังว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ก็หวังว่าจะเน้นทำงานในเรื่องนี้ เพราะมีรายละเอียดเยอะ โดยเฉพาะการกระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และกระจายภารกิจ และโอกาสในการเก็บภาษี เพื่อให้การบริหารแผ่นดิน เป็นไปด้วยความฉับไว เพราะก่อนหน้านี้มีบทเรียนมาหลายช่วง ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และโควิด จึงคิดว่าเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยและคนที่จะมารับตำแหน่งนี้
ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาล เป็นเจ้ากระทรวง จะกระจายอำนาจได้จริงหรือไม่นั้น นายพิธา มองว่า คงต้องให้เวลารัฐบาลในการทำงานก่อน เพราะตอนนี้ยังเป็นแค่โผครม. ไม่ทราบว่าใครเป็นรัฐมนตรีกันแน่ และไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ประเทศไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากให้มีการกระจุกตัวของอำนาจ อยู่ในแค่เมืองแค่ไม่กี่เมือง ก็จะทำให้ประเทศไทยไปต่อไม่ได้
เมื่อถามว่าอยากให้พรรคเพื่อไทย ตั้งโรดแมปในการทำงานให้กับประชาชนอย่างไรบ้าง เพราะตอนพรรคก้าวไกลก็ได้จัดทำโรดแมพประกาศกับประชาชนอย่างชัดเจน นายพิธา ระบุว่า ในช่วงวิกฤติ ไม่ว่าพรรคอะไรก็คงต้องมีโรดแมป เป็นของตัวเอง ที่จะประกาศกับประชาชน อย่างชัดเจน เพื่อให้เห็นว่าประชาชน จะมีส่วนร่วม และมีความคาดหวังได้อย่างไรบ้าง ซึ่งของพรรคก้าวไกล ในช่วงสองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการผลักดันกฏหมายสำคัญ เข้าสู่สภา ซึ่งเป็นสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ เรื่องเกี่ยวกับกฏหมายสุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม จะมีการผลักดันต่อไป ถ้าครม.บรรจุไม่ทัน 60 วัน ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ ทางฝั่งพรรคก้าวไกล จะมีโรดแมปบอกพี่น้องประชาชน ที่เลือกพรรคก้าวไกล หรือไม่ได้เลือก ว่าการทำงานในส่วนของนิติบัญญัติจะเป็นอย่างไร
ส่วนใน 3 เดือนแรก มองว่า พรรคเพื่อไทย ควรแก้ไขปัญหาเรื่องไหนเป็นอันดับแรกนั้น นายพิธา ระบุว่า ต้องทำตามที่ให้สัญญากับประชาชนเอาไว้ มีหลายอย่างที่รอรัฐบาลใหม่อยู่ เช่นวิกฤติที่ดิน ที่สะสมมานาน เรื่องหนี้สิน เรื่องการเพิ่มมูลค่าการเกษตร คล้ายกับกระดุม 5 เม็ดที่เคยอภิปรายไป โดยเฉพาะเรื่องสิทธิการทำกิน และการดูแลสถานะเกษตรกร
ทั้งนี้ สำหรับการลงพื้นที่ของนายพิธาที่จ.ระยอง เน้นในพื้นที่ ต.ชำฆ้อ อำเภอเขาชะเมา เพราะเป็นพื้นที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งเพื่อลงมาทำความเข้าใจ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ว่าทำไมครั้งนี้ถึงต้องเลือกพรรคก้าวไกล สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลักษณะชุมชน บ้านเป็นหลังๆ และส่วนมากมีป่ามีเขา มีพื้นที่สวนเยอะ จึงเน้นการเดินเท้า เข้าไปตามหน้าประตูบ้าน เพื่อพบปะประชาชน พูดคุยทักทายกับประชาชนตามบ้านเรือน ซึ่งก็มีชาวบ้านในพื้นที่ มาให้กำลังใจนายพิธาด้วย
โดยนายพิธา ได้เชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 10 กันยายนนี้ เพราะเป็นสิ่งที่กังวลว่าการเลือกตั้งซ่อมจะออกไปใช้สิทธิกันน้อย และขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลในครั้งที่แล้ว หันมาเลือกในครั้งนี้ เพราะมั่นใจว่าพรรคมีความจริงใจในการทำการเมือง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.