นายกฯเศรษฐาสั่งแก้เกณฑ์คืน VAT Refund ดึงดูดการท่องเที่ยว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง 4 กระทรวง กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และขั้นตอนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (VAT Refund) ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน

ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุข้อมูลว่า ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ 

จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และขั้นตอนต่าง ๆ ในการดำเนินการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางออกจากประเทศไทยให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ได้มีการพิจารณามาตรการการลดขั้นตอนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ VAT Refund โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ได้หารือกับกรมสรรพากร และกรมศุลกากร แล้ว 

โดยแนวทางที่ได้หารือนั้น มีทั้งการจัดให้มีจุดให้บริการคืนภาษีเพียงจุดเดียว ซึ่งจะให้บริการพิธีการตรวจสินค้าจากกรมศุลกากรและการคืนภาษีของกรมสรรพากรมาไว้ที่จุดเดียวกัน จากปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต้องผ่านพิธีการตรวจสินค้าจากศุลกากรก่อน จากนั้น จึงไปขอคืนภาษีที่จุดให้บริการของกรมสรรพากรอีกจุดหนึ่ง

อีกเรื่องเป็นข้อเสนอการเพิ่มวงเงินสินค้าที่จะต้องสำแดง หรือได้รับการตรวจปล่อยจากกรมศุลกากร แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปรวมถึงการเปิดให้มีจุดให้บริการตรวจสินค้าและคืนภาษีเพียงจุดเดียวด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในการหารือครั้งนี้มีการยกเรื่องการเพิ่มวงเงินของสินค้าที่ไม่ต้องผ่านพิธีการศุลกากรจากปัจจุบันสินค้ามูลค่าไม่เกิน 5,000 บาท เป็น 2 หมื่นบาท ส่วนมูลค่าสินค้าที่ต้องนำสินค้าไปสำแดงเพื่อขอคืนภาษีกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจาก 1 หมื่นบาท กำลังพิจารณาให้เพิ่มเป็น 4 หมื่นบาท 

โดยเงื่อนไขการขอคืนภาษีในปัจจุบันนั้น ผู้โดยสารต้องมียอดซื้อไม่น้อยกว่า 2,000 บาทต่อร้านต่อครั้ง ผู้โดยสาร 1 ราย ซื้อของมูลค่าไม่เกิน 5,000 บาท สามารถไปขอรับคืนภาษีจากเจ้าหน้าที่สรรพากรโดยไม่ต้องผ่านพิธีการทางศุลกากร

ขณะที่ของที่ต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สรรพากร 10 รายการ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป ได้แก่ เครื่องประดับ ทองรูปประพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา มือถือ แล็บท็อบหรือแท็บเล็ต กระเป๋า (ไม่รวมกระเป๋าเดินทาง) เข็มขัด และของที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ (carry-on) ตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.