'เศรษฐา'เร่งแก้ปัญหานักท่องเที่ยวไม่ตามเป้า กำชับจัดการกลุ่มจีนเทา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว หลังตัวเลขยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ว่า 3-4 วัน ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวจีนก็เดินทางเข้ามามากขึ้น เฉลี่ยวันละหมื่นกว่าคนแล้ว แต่ก็ถือว่ายังจะต้องทำการบ้านกันต่อ และบริหารจัดการในเรื่องของอะไรที่ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งก็พยายามจัดการอยู่

ส่วนตอนนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการใช้วีซ่าฟรีเข้ามากันมากๆ อาจจะมีเรื่องความไม่ปลอดภัย หรือกลุ่มคนสีเทาบนเข้ามาด้วย นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ตนได้ไปเช็คดูแล้ว ว่าคนที่ทำผิดกฎหมาย ได้เข้ามาก่อนที่จะมีมาตรการวีซ่าฟรีอีก แต่จะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาหลังเราไม่ได้ให้ความสนใจตรงนี้ ถ้าเกิดผิดกฎหมายเราต้องจัดการ ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้เรียกประชุมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลด้านการท่องเที่ยว และทางด้านตรวจคนเข้าเมืองด้วย ขณะเดียวกันยังมีผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รัฐมนตรีและผู้ว่าการท่องเที่ยวมาด้วย

นอกจากนี้ยังมีการประชุมร่วมกับกระทรวงดิจิทัลฯ ที่ดูแลเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการไปปรากฏตัวอยู่ตามชาติแดน ซึ่งก็มีมาตรการออกไป ส่วนตัวก็เชื่อว่าเรื่องนี้ให้ความสำคัญสูงสุด  เมื่อถามว่าเคยเจอหรือไม่ในเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับตัวเอง นายเศรษฐา กล่าวว่า เจอบ่อยเลย ตนก็วางสายไปไม่ได้คุยด้วย ซึ่งก็จะแนะนำประชาชนไปตามที่กระทรวงดิจิทัลฯ แนะนำ และก็ต้องขอความร่วมมือกับทุกๆฝ่าย ทั้งกระทรวงการคลัง และ ธนาคารเอง ร่วมถึงถึงกสทช.และเครือข่ายโทรศัพท์ทั้งหลายด้วย ให้ตรวจดูอย่างเข้มงวด 

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึง กรณีการสร้างข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ว่า ก็ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ไปหาต้นต่อในเรื่องพวกนี้ เพราะข่าวปลอมเป็นตัวบ่อนทำร้ายความเจริญของประเทศ หนึ่งในหลายปัจจัย ที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวอาจไม่เป็นไปตามเป้า เพราะยังมีในเรื่องของเศรษฐกิจภายในประเทศของเขาและเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เมื่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงขึ้น เงินที่มาใช้จ่ายในประเทศไทยก็จะน้อยลง เราก็อยากให้มีการจับจ่ายใช้สอยต่อคน ให้เยอะขึ้น และก็อยากให้อยู่ในระยะที่ยาวขึ้น ไม่ใช่อยู่แค่ในเมืองหลักอย่างเดียว อย่างเช่นจังหวัดสระแก้ว ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะก็อยากจะให้มาท่องเที่ยวกันบ้างเป็นต้น