เศรษฐา เล็ง ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 15 ปี จูงใจนักลงทุนต่างชาติ
วันที่24พ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการเนชั่น อินไซต์ ทางเนชั่นทีวีช่อง 22 ตอนหนึ่งว่า การเดินทางไปประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มี 2 เรื่องใหญ่ เรื่องแรก คือ การสานความสัมพันธ์ มีประเทศเข้าร่วมหารือกันกว่า 21 ประเทศที่เป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เป็นการเดินทางไปสานความสัมพันธ์ต่อจากรัฐบาลที่แล้ว นำเสนอเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจสำคัญ BCG ยืนยันเจตนารมณ์รัฐบาลในการขับเคลื่อน
เรื่องที่สอง คือ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และภาคธุรกิจที่สำคัญ บริษัทใหญ่ของโลก เช่น AWS Microsoft และ Google และอีกหลายบริษัท ซึ่งนักธุรกิจทั่วโลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดต้อนรับนักธุรกิจ ไม่มีเวลาไหนที่เหมาะสมจะเข้ามาลงทุนดีกว่าช่วงเวลานี้แล้ว
นายเศรษฐากล่าวว่า แม้เราเป็นประเทศไม่ใหญ่ แต่มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย เข้าใจจุดแข็ง ที่ผ่านมาได้เจอกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐ พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อทำทวิภาคี การเดินทางไปครั้งนี้เราไม่ได้เป็นคู่แข่ง แต่ทำตัวพอประมาณ เราเป็นคู่ค้าของเขา อย่างนี้เขาก็สบายใจ โดยที่ไม่มีความรู้สึกว่าเราไปท้าทายตำแหน่งของเขา จุดยืนของไทย เราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ส่วนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับภาคธุรกิจ ที่ผ่านมีการลงนามเอ็มโอยูไปหลายฉบับจะเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่ นั้น ยอมรับว่า ความร่วมมือด้านต่างๆ ยังมีรายละเอียดอื่นที่ต้องสานต่อกันอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ Tesla บริษัทยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ พร้อมเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นเงินลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเข้ามาดูทำเลที่ตั้งของโรงงาน และพร้อมเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 3 ประเภทด้วยกัน รัฐบาลไม่อยากให้การเข้ามาลงทุนคุยด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว จะเชิญให้ไปดูเทศกาลงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมของไทย
ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ตั้งเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสำคัญ ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล และเอไอ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมทันสมัย เชื่อว่า สภาพแวดล้อมของประเทศไทย รวมทั้งมาตรการทางด้านภาษี ผ่านการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8-15 ปี และพลังงานสะอาดที่เตรียมความพร้อมเอาไว้อย่างเต็มที่ จะเป็นจุดดึงดูดสำคัญให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย และจุดแข็งที่สำคัญอีกอย่างของประเทศไทยปัจจุบันในสายตาของนักลงทุนทั่วโลกนั่นคือ ความมั่นคงทางด้านการเมืองที่ในวันนี้ รัฐบาลมีมากกว่า 300 เสียง
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภท รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ในส่วนของรถไฟความเร็วสูงนั้น เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำการค้าระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาเกิดอุปสรรคช่วงรอยต่อระหว่างไทยไปสปป.ลาวนั้น ยังมีปัญหาการติดขัดในเรื่องของขั้นตอนขนถ่ายสินค้าผ่านแดน ทำให้เกิดอุปสรรคในการขนส่งสินค้าอย่างมาก จึงจำเป็นต้องแก้ไขแบบ ONE STOP SERVICE หรือ การให้บริการเบ็ดเสร็จ จุดเดียว ทดลองนำร่องที่ด่านหนองคาย ถ้าทำได้ก็ขยายไปที่อื่น
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ขณะนี้ได้มอบหมายทีมงานกลับมาโฟกัสและไล่งานต่างๆ ให้กระชับขึ้น และติดตามงานที่โฟกัสเอาไว้อย่างชัดเจน เชื่อว่าข้าราชการไทยมีคุณภาพ และรักประเทศ อยากเห็นประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้ การตามงานทั้งหมดก็ได้มอบหมายทุกหน่วยงานช่วยกันโฟกัสเรื่องสำคัญๆ ของประเทศและผลักดันออกมาให้ได้โดยเร็ว
การทำงานของตน ที่ผ่านมาเคยทำงานในภาคธุรกิจมาก่อน พอมาเจอการบริหารราชการแผ่นดินแบบราชการ ต้องยอมรับว่า รับทราบเรื่องการทำงานราชการอยู่แล้วว่าจะลำบาก แต่ไม่อยากเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขหรือข้อแก้ตัวว่าคือปัญหา หน้าที่ของผู้นำรัฐบาลจำเป็นต้องโน้มน้าวในทุกภาคส่วนได้รับทราบร่วมกันถึงเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เช่นเดียวกับฝ่ายความมั่นคง ก็น่าจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสม
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.