นายกฯเร่งมาตรการ Quick Win รับทุนนอกสร้างโอกาสเศรษฐกิจไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ได้พบหารือกับ U.S. APEC Business Coalition ซึ่งประกอบด้วย National Center for APEC (NCAPEC) สภาหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce: USCC) และสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S.-ASEAN Business Council: USABC) โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกฯ ย้ำการเปิดกว้างของรัฐบาลไทยด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งประเทศไทยมีพื้นฐานด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าที่จะทำให้ประเทศไทยพร้อมสำหรับอนาคตให้เจริญเติบโตท่ามกลาง“วิกฤตหลายด้าน” ของเศรษฐกิจโลกที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และปัญหาสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาในเส้นทางการพัฒนาด้วยมาตรการ "quick-win" รวมถึงการลดค่าครองชีพ การสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศ และการขยายการลงทุนและธุรกิจ
ไทยมุ่งเป้าสู่การเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงในภูมิภาคด้านการพาณิชย์และโลจิสติกส์ โดยเน้นมาตรการระยะกลางและระยะยาว ทั้งการเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ เร่งการเจรจา FTA เพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหม่ ตลอดจนเร่งรัดการใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมในภูมิภาค
การจัดลำดับความสำคัญของความเชื่อมโยงผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงการ “Landbridge” เชื่อมต่อทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ซึ่งจะเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอีกมาก โดยนายกฯ กล่าวเชิญชวนและยินดีต้อนรับการลงทุนของสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคภายในทศวรรษนี้
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงการเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสาร Satellite 1 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานอันดามันที่จังหวัดภูเก็ตและท่าอากาศยานล้านนาที่จังหวัดเชียงใหม่ และแผนการปรับปรุงท่าอากาศยานอื่นๆ ของไทย เพื่อรองรับความเชื่อมโยงภายในประเทศ อันจะนำไปสู่การก้าวเป็น hub คมนาคมขนส่งของภูมิภาค อีกทั้งยังจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึง soft power ท้องถิ่นของจังหวัดต่างๆ ด้วย
นายกฯ ยังได้ย้ำว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเป็นรากฐานความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ จึงหวังว่า U.S. APEC Business Coalition จะสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนระหว่างทั้งสองฝ่าย รวมถึง APEC ให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในด้านที่ไทยและสหรัฐฯ ให้ความสำคัญร่วมกัน เช่น ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนผ่านพลังงาน การเชื่อมโยงทางกายภาพและดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
ไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ และมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่สำคัญซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พลังงานสะอาด และอื่นๆ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า “ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย” โดยไทยกำลังดำเนินการด้านกฎระเบียบที่ครอบคลุม การแปลงบริการภาครัฐเป็นดิจิทัล และกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติเพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมและได้รับมาตรการส่งเสริม
พร้อมกันนี้ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมการหารือ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.