เศรษฐา ทวีสิน ฉลุย นายกรัฐมนตรี คนที่30 เปิดท่าที สส.-สว. ร่วมโหวต

เวลา 15.15น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้แจ้งสมาชิกรัฐสภา ประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ถึงขั้นตอนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยเลขาธิการสภาฯ จะมีการขานชื่อเป็นรายบุคคล ให้สมาชิกออกเสียงว่าจะลงมติ เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง

ทันทีที่มีการเรียกรายชื่อสมาชิกรัฐสภา เรียงตามลำดับตัวอักษร จากจำนวนสมาชิกที่มาแสดงตนรวมทั้งสิ้น 747 คน ต้องได้เสียงเกินกึ่งจากที่ประชุม หรือเกินกว่า 375 เสียง 

ปรากฎว่า สส.จากพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้ง11 พรรค 314 เสียง ประกอบไปด้วย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทรวมพลัง เป็นต้น ต่างโหวตไปในทิศทางเดียวกัน เห็นชอบ 

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตุว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ไม่อยู่ในห้องประชุม 

กลุ่ม สว. มีทั้ง งดออกเสียง เช่น นายเจน นำชัยศิริ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เป็นต้น   

ขณะที่ นายกล้านรงค์ จันทิก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ นายมณเฑียร บุญตัน เป็นต้น ที่ได้ร่วมโหวตเห็นชอบ ให้กับ นายเศรษฐา

พรรคที่ไม่เห็นชอบ ประกอบไปด้วย สส.พรรคก้าวไกล พรรคเป็นธรรม ส่วน พรรคไทยสร้างไทย สมาชิก งดออกเสียง 

ขณะที่สส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 25คน มีทั้ง งดออกเสียง ซึ่งเป็นไปตามมติพรรค และ ไม่เห็นชอบ เช่น นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นต้น 

กระทั่งเวลาประมาณ 16.15 น. เสียงที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาฯ เสียงจากสว. ได้เกินกว่าจำนวนที่ต้องการ มากกว่า 61 เสียง ขณะเดียวกัน ท่าที เสียงสส.ส่วนใหญ่ มีแนวโน้มว่าจะเกินกว่ากึ่งหนึ่งคือ 375 เสียงอย่างแน่นอน ต่อการโหวตเห็นชอบ ทำให้นายเศรษฐา ก้าวขึ้นเป็น ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่30