“ศิริกัญญา ตันสกุล” แจง ไม่เคยดิสเครดิตนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรทำการเมืองสร้างสรรค์ อย่าดิสเครดิตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ตนเองยังไม่มีถ้อยคำไหนที่เป็นการดิสเครดิตในสภาผู้แทนราษฎร เราได้แต่เรียกร้องให้รัฐบาลมีข้อเท็จจริง พูดความจริงกับประชาชน ถ้ามองว่าเป็นการด้อยค่าหรือดิสเครดิตต้องขออภัย เราไม่ได้มีเจตนา เพียงแต่อยากให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่า
ทั้งนี้หากรัฐบาลผลักดันโครงการนี้สำเร็จไม่น่าจะถึงขั้นผิดรัฐธรรมนูญ เพราะ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พูดแล้วว่าแม้จะไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ หรือไม่ได้ทำตามในเอกสารเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่ยื่นไว้ ก็ไม่มีบทกำหนดโทษ ถ้าจะผิดรัฐธรรมนูญคงเป็นเรื่องการเดินหน้าต่อ การออก พ.ร.ก.เงินกู้ การใช้ธนาคารของรัฐในการดำเนินการ การแบ่งจ่ายเงินเป็นหลายงวด อาจผิด พ.ร.บ.เงินตรา และข้อจำกัดของข้อกฎหมายอื่น ๆ
ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะมีผลต่อคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา ระบุว่าหากบอร์ดชุดใหญ่ได้ฟังข้อคิดเห็น น่าจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ไม่ได้ดูตามหลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการฯชง เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังปวดหัวกับการเสาะหาแหล่งเงินในโครงการนี้ สำหรับข้อเสนอการปรับลดงบประมาณของโครงการเหลือ 1 แสนล้านบาท คงต้องหาแนวทางที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ดีกว่า เช่น โครงการขนาดย่อยที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ทันที รอเพียงรัฐบาลอัดฉีดงบประมาณ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ปรับปรุงสาธารณูปโภค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เน้นเพิ่ม GDP อย่างเดียว ไม่ได้ตอบโจทย์ต่อการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ
เมื่อถามถึงกรณีที่นักวิชาการประเมินว่าพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าดิจิทัลวอลเล็ตอาจสร้างความเสียหาย และจะขอร่วมไม่ไว้วางใจนายเศรษฐา ทวีสิน นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า สุดท้ายจะต้องเป็นการลงมติโดย ครม.อยู่แล้ว ส่วนตัวคิดว่าได้ร่วมหอลงโรงกันแล้วน่าจะเห็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ได้เริ่ม โอกาสที่จะเอาไปใช้ในการอภิปรายทั่วไป หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยหน้าต้องดูรายละเอียดโครงการก่อน เราได้แต่ติดตามอย่างใกล้ชิดว่าโครงการจะออกมาในทิศทางใด
อยากให้รัฐบาลยึดที่เป้าหมายเป็นสำคัญมากกว่า แนวทางการดำเนินการ หากยึดติดว่าต้องแจกเงินอย่างเดียว อาจทำให้สูญเสียเป้าหมายใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยได้สัญญากับประชาชนว่าจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% ภายในเวลา 4 ปี หากปรับเปลี่ยนวิธีการประชาชนน่าจะรับฟัง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.