แด่ตำนานผู้จากไป "เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน" กับความทรงจำเครื่องบินตกที่ไม่มีวันเลือน
การจากไปอย่างสงบของเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ในวัย 86 ปีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ต.ค. (ตามเวลาของประเทศอังกฤษ) สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแฟนฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษที่คุ้นเคย และคุ้นหน้าของเซอร์บ็อบบี้เป็นอย่างดี
เพราะช่วงที่ท่านยังแข็งแรง จะมักปรากฎกายเสมอในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึงเกมนัดสำคัญๆของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อรวมชมเกมให้กำลังใจนักเตะรุ่นเหลนเวลาลงสนาม
ภาพจำที่ชัดเจนสุดคือเกมที่ท่านเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังเห็นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีกได้เมื่อปี 1999
อดีตตำนานปิศาจแดง เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เสียชีวิตในวัย 86 ปี ด้วยอาการป่วย โรคสมองเสื่อม (dementia) ซึ่งตรวจพบมานานตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2020 แล้ว เราจึงไม่เห็นเซอร์ บ็อบบี้ ปรากฎตัวในสนามหรือออกสื่อเลยในช่วง 2 ปีหลัง
อาการป่วยทางสมองมักจะพบบ่อยที่สุดกับอดีตนักฟุตบอลยุคปี 60-80 มีการนำปัญหาของโรคมาสู่การศึกษา วิจัย และหาทางป้องกันภัยของโรคสมองเสื่อมให้นักบอลรุ่นหลังมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเสียชีวิตของเซอร์บ๊อบบี้ คืออาการเดียวกับที่พี่ชายของเขา แจ๊ค ชาร์ลตัน และ น็อบบี้ สไตล์ เพื่อนร่วมทีมในยุคเดียวกันเสียชีวิตไป
อาการป่วยดังกล่าวของอดีตดาวยิงทีมปิศาจแดง ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำและเสียทักษะทางการสื่อสารไป แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยลืมไปจากความทรงจำอันโหดร้าย คือเหตุการณ์เครื่องบินตกที่มิวนิคเมื่อปี 1958
เหตุการณ์สุดระทมที่แม้ตายที่ไม่มีวันเลือน
เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ที่เวลานั้นอายุเพียง 20 ปี เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกในโศกนาฏกรรมมิวนิค ตอนนั้นนักเตะและสตาฟฟ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค Busby Babes ของผู้จัดการ แมตต์ บัสบี้ ต้องสังเวยชีวิตรวม 8 ศพ เมื่อรวมกับผู้สื่อข่าวและลูกเรือก็ทะลุเกิน 10 ศพ
โศกนาฏกรรมครั้งนั้นเซอร์บ็อบบี้ อาการสาหัสแต่รอดมาได้พร้อมกับ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ผู้จัดการทีม ทว่าความทรงจำที่เลวร้าย ณ ตอนนั้นมันคงตามมาหลอกหลอนเขาทุกวัน
แม้กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ชาร์ลตัน ไม่เคยลืม เขาเคยให้สัมภาษณ์ตอนวัยเกิดอายุครบ 80 ปี เอาไว้ว่า รู้สึกผิดที่ตัวเขาเองรอดชีวิตกลับมาได้
"ใช่แล้ว มันยังคงอยู่กับผมทุกวัน บางห้วงเวลามันก็ทำให้ผมจมดิ่งไปกับความเศร้าในช่วงเวลานั้น"เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันเกิดเมือ 6 ปีที่แล้ว
"ผมความรู้สึกผิดที่ตัวเองรอดชีวิตมาได้ ผมได้ไปต่อและได้พานพบเจออะไรมากมาย เมื่อมองไปท่ามกลางความสำเร็จ มันทำให้กลับมาคิดถึงเพื่อนๆผมที่จากไปและเขาควรจะยืนอยู่และร่วมฉลองความสำเร็จด้วยกันตรงนี้"
หลังเหตุการณ์เครื่องตกปี 1958 แมนฯยูไนเต็ดเสียสูญเป๋ไปเกือบ 10 ปี ก่อนที่เซอร์ แมตส์ บัสบี้ จะรวบรวมขุมกำลังที่มีอยู่อย่างบ็อบบี้ ชาร์ลตัน ,เดวิด เฮิร์ด ,เดนิส ลอว์ น็อบบี้ สไตล์ส รวมพลังกับแข้งดาวรุ่งอย่างจอร์จ เบสต์ พาทีมแมนฯยูไนเต็ด กลับมาคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1964-67
จากนั้นในปี 1966 บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ก็เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษ ร่วมกับ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ , บ็อบบี้ มัวร์ , กอร์ดอน แบงค์ , อลัน บอลล์ ,จิมมี่ กรีฟส์ พาทัพสิงโตคำราม คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ
ซึ่งในปีดังกล่าว บ็อบบี้ ชาร์ลตันก็คว้ารางวัล บัลลงดอร์ เกียรติยศสูงสุดของนักฟุตบอลอาชีพมาครองได้ด้วย ถัดมาในปี 1968 ชาร์ลตันยังยิ่งใหญ่เมื่อยิงประตูกระจายจนพาทีมปิศาจแดงก้าวไปครองแชมป์ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นสมัยแรกของสโมสรได้สำเร็จ
ซึ่งสิ่งที่ชาร์ลตันมักหวนรำลึกเสมอคือเพื่อนๆร่วมทีมทั้ง 8 คนที่จากไปจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่มิวนิค ที่ไม่เคยลืมไปจากความทรงจำของเขาเลย
"ผมไม่เคยหยุดถามตัวเองว่าทำไม ถึงยังเอามือลูบสัมผัสร่างกายได้ และพบว่าตัวเองยังรอดตายกลับมาแข็งแรง แต่เพื่อนของผมอย่าง โรเจอร์ ไบรน์ , เอ๊ดดี้ โคลแมน, บิลลี่ วีแลน , เดวิด เพจจ์ , ทอมมี่ เทย์เลอร์ , มาร์ค โจนส์ และ เจฟฟ์ เบนท์ นอนเสียชีวิตคาเครื่อง ส่วน ดันแคน เอ๊ดเวิร์ด เพื่อนรักของผมก็ต้องมาเสียชีวิตหลังยื้อมานานที่โรงพยาบาล มันทำให้คิดเสมอว่าผมไม่ควรทิ้งพวกเขาเลย"
"ผมคือคนที่เชื่อเสมอกับปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่หลังจากต้องเห็นคนที่ผมรัก เด็กหนุ่มอนาคตไกลฝีเท้าดีในเวลานั้นจากไปต่อหน้าต่อตา ปาฏิหารย์ของผมมันมีราคาแพงแสนแพง"
"ผมคิดเสมอทำไมต้องเป็นตัวเอง ทำไมผมถึงโชคดีที่นั่งที่นั่งที่ถูกต้องจนตัวเองรอดออกมา เมื่อเพื่อนๆผมตาย การเล่นฟุตบอลของผมมันหมดความหมายไปเลย" เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กล่าวเสริมถึงเหตุการณ์ในมิวนิคที่เขาไม่เคยลืมเลือน
บ็อบบี้ชาร์ลตัน ผู้เกิดมาเพื่อเป็นตำนาน
เซอร์ บ็อบบี้ เกิดที่เมืองแอชชิงตัน นอร์ธัมเบอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1937 เขาเข้าร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะเยาวชน เมื่อปี 1953 ก่อนจะก้าวเป็นนักเตะอาชีพในปี 1954 จนกระทั่งได้ลงสนามนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ ในเกมพบกับ ชาร์ลตัน เดือนตุลาคม 1956 ด้วยวัย 18 ปี
ส่วนทีมชาติอังกฤษ เซอร์ บ็อบบี้ ติดทีมชาติอังกฤษไป 106 นัด และยิงไป 49 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติของประเทศขณะนั้น ก่อนจะถูกเวย์น รูนีย์ ดาวยิงรุ่นน้องยิงแซงทำลายสถิติไป
ในปี 1966 เซอร์ บ็อบบี้ ได้รับรางวัล “บัลลงดอร์” หลังจากลงเล่นครบทุกนาทีและพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกและสมัยเดียว โดยเอาชนะเยอรมนีตะวันตกไป 4-2 ประตูในนัดชิง
ตลอดอาชีพค้าแข้ง 17 ปี ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซอร์ บ็อบบี้ คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย, ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก (ยูโรเปี้ยน คัพเดิม) 1 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย
ชาร์ลตัน ประสานกับ “เดนิส ลอว์” และ “จอร์จ เบสต์” จนได้รับฉายาว่า "United Trinity หรือตำนานสามทหารเสือของยูไนเต็ด ที่สร้างและขีดเขียนหน้าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซอร์ บ็อบบี้ ยิงให้ยูไนเต็ดไป 249 ประตูจาก 758 เกม ก่อนที่จะอำลาสโมสรในเดือนพฤษภาคม ปี 1973 จนกระทั่งได้รับการติดยศ อัศวิน หรือ "เซอร์" ในปี 1994
ความยิ่งใหญ่และเป็นตำนานของ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตันนั้น ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนชื่ออัฒจันทร์ฝั่งใต้ของโอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้เป็นชื่อ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน สแตนด์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในปี 2016
เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลงสนาม 758 แมตช์
ยิงประตู 249
เกียรติประวัติ (แมนฯยูไนเต็ด)
แชมป์ลีก 3 สมัย
แชมป์ยูโรปเปียน คัพ 1 สมัย
แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย
ติดทีมชาติอังกฤษ 106 แมตช์
ยิงประตู 49
เกียรติประวัติ (ทีมชาติ)
แชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย
เกียรติประวัติส่วนตัว
1965/66 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี
1966 ลูกบอลทองคำฟุตบอลโลก 1966
1966 บัลลงดอร์
1994 ติดยศอัศวิน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.