ชอบทานอาหารรสชาติไหน เสี่ยงโรคอะไรบ้าง
รสชาติอาหารคือความรู้สึกตอบสนองทางประสาทสัมผัสที่ได้รับเมื่ออาหาร ของเหลว หรือของแข็งถูกเคี้ยว บดไปกับน้ำลาย สารละลายจะไปสัมผัสกับต่อมรับรส (taste bud) บนผิวลิ้นหรือบริเวณใกล้เคียงปากและคอ โดยทั่วไปอาหารมีรสชาติหลากหลายทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็มเป็นต้น แต่ทราบหรือไม่ว่าหากเราชอบทานรสชาติอาหารใดเป็นพิเศษ หรือทานรสชาตินั้นเป็นประจำ อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ กับเราได้ดังต่อไปนี้
ชอบทานอาหารรสเค็มเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หลายประการ ดังนี้
- โรคความดันโลหิตสูง โซเดียมเป็นเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ และเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งอาจนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูงได้
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ร่วมกัน เช่น การสูบบุหรี่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน และความเครียด การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
- โรคไต ไตมีหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไปอาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพื่อกำจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคไตเรื้อรังได้
- โรคกระดูกพรุน โซเดียมอาจขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งจำเป็นต่อกระดูก การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้
- โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร การศึกษาบางชิ้นพบว่า การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้
วิธีลดความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารรสเค็ม
เพื่อลดความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารรสเค็ม ควรจำกัดการบริโภคอาหารรสเค็ม และเลือกรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยเกลือหรือซอสที่มีรสเค็ม
- เลือกรับประทานอาหารสด แทนอาหารแปรรูป
- อ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบปริมาณโซเดียม
ปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณโซเดียมที่ควรบริโภคต่อวัน อยู่ที่ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา
ตัวอย่างอาหารที่มีโซเดียมสูง
- อาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว อาหารกระป๋อง
- อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารทะเลแช่แข็ง
- อาหารปรุงรส เช่น ซอสปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊ว
- อาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ปลาร้า กะปิ
หากคุณชอบกินอาหารรสเค็ม ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ชอบทานอาหารรสหวานเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
- โรคอ้วน น้ำตาลเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานสูง การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคอ้วนได้
- โรคเบาหวาน น้ำตาลเป็นอาหารของเซลล์ในร่างกาย การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้
- โรคหัวใจและหลอดเลือด น้ำตาลอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
- โรคฟันผุ น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้ฟันผุได้
- โรคมะเร็ง การศึกษาบางชิ้นพบว่า การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
วิธีลดความเสี่ยงจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป
เพื่อลดความเสี่ยงจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป ควรจำกัดการบริโภคน้ำตาล และเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลต่ำ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ชานมไข่มุก
- เลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลธรรมชาติ เช่น ผลไม้ นม
- อ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำตาล
ปริมาณน้ำตาลที่แนะนำต่อวัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวัน อยู่ที่ไม่เกิน 25 กรัม หรือเทียบเท่าช้อนชาน้ำตาล 6 ช้อนชา
ตัวอย่างอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ขนมหวานต่างๆ เช่น ไอศกรีม เค้ก คุกกี้
- เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ชานมไข่มุก
- อาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยว อาหารสำเร็จรูป
หากคุณชอบกินหวาน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ชอบทานอาหารรสเปรี้ยวเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
- ทำลายฟัน กรดจากอาหารรสเปรี้ยว จะกัดกร่อนผิวเคลือบฟัน ทำให้ฟันค่อย ๆ สึกทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย
- ท้องร่วง การทานอาหารรสเปรี้ยวมากเกินไป อาจทำให้ท้องเสียได้
- ร้อนใน การทานอาหารรสเปรี้ยวมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายผลิตกรดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้
- กระดูกผุ การทานอาหารรสเปรี้ยวมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้
วิธีลดความเสี่ยงจากการทานเปรี้ยวมากเกินไป
เพื่อลดความเสี่ยงจากการทานเปรี้ยวมากเกินไป ควรจำกัดการบริโภคอาหารรสเปรี้ยว และเลือกรับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวน้อย ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากเกินไป เช่น มะนาว มะเขือเทศ น้ำส้มสายชู
- เลือกทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวน้อย เช่น มะละกอสุก แตงโม สับปะรด
- ดื่มน้ำเปล่าตามหลังการทานอาหารรสเปรี้ยว เพื่อช่วยลดการกัดกร่อนของฟัน
ปริมาณอาหารรสเปรี้ยวที่แนะนำต่อวัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณอาหารรสเปรี้ยวที่ควรบริโภคต่อวัน อยู่ที่ไม่เกิน 2 ช้อนชา
ตัวอย่างอาหารที่มีรสเปรี้ยวสูง
- ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว มะเขือเทศ องุ่น สตรอว์เบอร์รี่
- ผักรสเปรี้ยว
- อาหารปรุงรส เช่น น้ำส้มสายชู ซอสเปรี้ยว
หากคุณชอบทานเปรี้ยว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ชอบทานอาหารรสเผ็ดเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
- ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร สารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารให้รสเผ็ดในพริก มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยและกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เกิดการระคายเคือง ซึ่งอาจนำไปสู่อาการแสบร้อนกลางอก กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก หรือท้องเสียได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระเพาะและลำไส้ การรับประทานอาหารรสเผ็ดเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบได้ เนื่องจากสารแคปไซซินจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เยื่อบุกระเพาะและลำไส้เกิดการอักเสบ เป็นแผล และอาจลุกลามเป็นมะเร็งได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด การรับประทานอาหารรสเผ็ดเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เนื่องจากสารแคปไซซินจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) ซึ่งทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และอาจทำให้หลอดเลือดแข็งตัวได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับ การรับประทานอาหารรสเผ็ดเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับได้ เนื่องจากสารแคปไซซินจะไปกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในตับ ซึ่งอาจทำให้ตับทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่โรคตับอักเสบได้
วิธีลดความเสี่ยงจากการกินอาหารรสเผ็ดมากเกินไป
เพื่อลดความเสี่ยงจากการกินอาหารรสเผ็ดมากเกินไป ควรจำกัดการบริโภคอาหารรสเผ็ด และเลือกรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดน้อย ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไป เช่น อาหารไทย อาหารเม็กซิกัน อาหารเกาหลี
- เลือกทานอาหารที่มีรสเผ็ดน้อย เช่น อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารยุโรป
- ดื่มน้ำเปล่าตามหลังการทานอาหารรสเผ็ด เพื่อช่วยลดการระคายเคือง
ปริมาณอาหารรสเผ็ดที่แนะนำต่อวัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณอาหารรสเผ็ดที่ควรบริโภคต่อวัน อยู่ที่ไม่เกิน 1 ช้อนชา
ตัวอย่างอาหารที่มีรสเผ็ดสูง
- อาหารไทย เช่น แกงเผ็ด ต้มยำ น้ำพริก
- อาหารเม็กซิกัน เช่น ทาโก้ เบอร์ริโต ชิลีคอนคาร์เน
- อาหารเกาหลี เช่น กิมจิ บิบิมบับ ซัมกยอบซัล
หากคุณชอบกินอาหารรสเผ็ด ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.