วิธีใช้ “น้ำตาเทียม” ให้ถูกต้อง ลดเสี่ยง “ตาแห้ง”

จักษุแพทย์แนะ หากมีอาการ น้ำตาไหล ตาแดง คันตา  ตามัว หรือเคืองตา ปวดตาอย่างรุนแรง หลังจากการใช้น้ำตาเทียม ควรหยุดใช้ และรีบพบจักษุแพทย์ทันที


น้ำตาเทียม คืออะไร ?

นายแพทย์มานัส โพธาภาณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า น้ำตาเทียมถูกผลิตขึ้นเพื่อนำมาใช้หล่อลื่นลูกตา มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง แสบตา หรือไม่สบายตา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการใช้สายตามาก หรือตาแห้ง 

นอกจากนี้ น้ำตาเทียมอาจนำมาใช้เพื่อหล่อลื่นลูกตาสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ อย่างไรก็ตามการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์และข้อควรระวังในการใช้ ดังนั้นผู้ใช้ควรปรึกษาจักษุแพทย์ และอยู่ภายใต้คำแนะนำ ตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างรอบคอบ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากหรือน้อยเกินไปและไม่ควรใช้นานเกินเพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย

>> ใช้ “คอนแทคเลนส์” แล้วไม่ใช้ “น้ำตาเทียม” อันตรายหรือไม่ ?


ประเภทของน้ำตาเทียม

แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมที่วางจำหน่ายมีอยู่ 4 ชนิด ได้แก่

  1. ชนิดขวด มีสารกันเสีย มีอายุ 1 เดือน (หลังเปิดใช้)

  2. ชนิดขวด มีสารกันเสียที่สลายได้ มีอายุ 1 เดือน (หลังเปิดใช้)

  3. ชนิดแบบกระเปาะเล็กไม่ใส่สารกันเสีย อายุการใช้ 1 วัน (หลังเปิดใช้)

  4. ชนิดเจล ขี้ผึ้ง (แบบป้ายตา) มีอายุ 1 เดือน (หลังเปิดใช้) 

ส่วนมากแพทย์แนะใช้เวลาก่อนนอน แต่สามารถใช้เมื่อรู้สึกตาแห้งระหว่างวันได้


วิธีการใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง

การใช้น้ำตาเทียมควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของจักษุแพทย์และควรใช้ตามคำแนะนำบนฉลากอย่างรอบคอบ แต่โดยทั่วไปมีวิธีใช้น้ำตาเทียมอย่างปลอดภัย ดังนี้

  1. ควรล้างมือให้สะอาดก่อนใช้น้ำตาเทียม
     
  2. เงยหน้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด จากนั้นดึงเปลือกลงเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับหยอดน้ำตาเทียม 

  3. หากเป็นชนิดขวด หรือชนิดหลอดยาขี้ผึ้งแบบป้าย ควรให้ปลายหลอดยาป้าย หรือปลายขวดน้ำตาเทียมห่างจากดวงตาพอประมาณ

  4. ค่อย ๆ หยดลงไป โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1 หยด ระหว่างที่หยดให้เหลือบตามองบน
     
  5. หลังจากหยดน้ำตาเทียมให้หลับตาไว้ประมาณ 1-2 นาที ไม่หรี่ตาหรือกะพริบตาเพื่อไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกจากตาเร็วเกินไป 

  6. เช็ดน้ำตาเทียมส่วนที่ไหลออกด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด

  7. ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมสัมผัสกับดวงตา ผิวหน้า หรือส่วนใดของร่างกาย เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการติดเชื้อได้

ทั้งนี้ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมมีวางจำหน่ายหลากหลายชนิดยี่ห้อ ดังนั้น หากเคยมีประวัติอาการแพ้น้ำตาเทียม ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนการใช้ หรือมีความผิดปกติ เช่น น้ำตาไหล ตาแดง คันตา ตามัว หรือเคืองตา ปวดตา ควรหยุดใช้ทันทีและรีบพบจักษุแพทย์ 


น้ำตาเทียมที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์

สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ แนะควรใช้ชนิดไม่มีสารกันเสียชนิดแบบกระเปาะเล็กใช้ได้ 1 วัน และถ้ามีความจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมร่วมกับยาหยอดตาอื่น ๆ ควรเว้นให้ห่างกันประมาณ 5-10 นาที เพื่อประสิทธิภาพของยา 

ที่สำคัญน้ำตาเทียมทุกชนิด เมื่อหมดอายุแล้วควรทิ้งทันทีห้ามน้ำกลับมาใช้ และควรเก็บน้ำตาเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้อง ไม่อยู่ในที่แสงแดดจัด และไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.