วิ่งสู่อนาคต ด้วยก้าวย่างที่เบาที่สุด กับ ADIZERO ADIOS PRO EVO 1 จากอาดิดาส
เพราะรองเท้าที่เบากว่า ย่อมส่งผลในการทำความเร็วที่มากกว่า อาดิดาส จึงได้ปฏิวัติวงการวิ่ง ด้วยการเปิดตัว ADIZERO Adios Pro Evo 1 รองเท้าวิ่งที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม พร้อมน้ำหนักเพียง 138 กรัม ซึ่งเบากว่ารุ่นอื่นถึง 40% ขึ้นแท่นเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันที่เบาที่สุดในกลุ่มรองเท้าวิ่งของอาดิดาส เพื่อมาพลิกโฉมการกำหนดฟอร์มการวิ่ง (Running Economy) พร้อมมอบแรงส่งกลับมาให้กับทุกย่างก้าวของนักวิ่งได้ดียิ่งขึ้น
แพทริก นาวา (Patrick Nava) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่ง และการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือด้านกีฬา (Running & Credibility Sports) ของอาดิดาส กล่าวว่า “ADIZERO Adios Pro Evo 1 คือหนึ่งในเครื่องยืนยันเรื่อง ‘Impossible is Nothing’ ของอาดิดาส ด้วยเป้าหมายที่ต้องการพัฒนารองเท้าวิ่งเพื่อการแข่งขันในตระกูล ADIZERO ให้มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ตรงใจเหล่านักวิ่ง แต่ยังต้องมีน้ำหนักที่เบาแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในรองเท้าวิ่งรุ่นอื่นของอาดิดาส ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องมาเริ่มต้นด้วยการสำรวจทุกองค์ประกอบของรองเท้าวิ่ง พร้อมหาจุดสมดุล รวมถึงปรับเปลี่ยนบางชิ้นส่วนเพื่อทำให้น้ำหนักของรองเท้ารุ่นนี้ลดลง เพื่อให้เหล่านักวิ่งสามารถพุ่งทะยานไปได้อย่างเร็วที่สุดในวันแข่งขัน ซึ่งในวันนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสุดยอดนักกีฬาของเราสวมใส่รองเท้ารุ่นนี้ในการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน รวมถึงรายการเมเจอร์มาราธอนอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง”
ADIZERO Adios Pro Evo 1 เป็นตัวอย่างที่แสดงให้ถึงวิวัฒนาการของรองเท้าวิ่งในตระกูล ADIZERO ได้อย่างเด่นชัด ด้วยการพัฒนารูปทรงส่วนลาดโค้งที่ปลายเท้า (forefoot rocker) ในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่ถึง 60% ของความยาวรองเท้าทั้งหมด ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้รับการทดสอบในห้องปฏิบัติการว่าสามารถส่งเสริมการพุ่งตัวไปด้านหน้า และพัฒนาฟอร์มการวิ่งของนักวิ่งแต่ละคนได้
นวัตกรรมใหม่ที่มีอยู่ในประกอบด้วย
· โฟม LIGHTSTRIKE PRO แบบใหม่ - ปฏิวัติรูปแบบโฟม LIGHTSTRIKE PRO ที่ทุกคนเคยเห็น ด้วยการผลิตจากกระบวนการขึ้นรูปไร้แรงบีบอัด ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ได้น้ำหนักที่เบาลง แต่ยังช่วยส่งพลังให้กับเหล่านักวิ่งในทุกก้าวที่เคลื่อนไปข้างหน้า โดยโครงสร้างของรองเท้ารุ่นนี้ยังได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักลดลง รวมถึงยังสามารถถอดแผ่นรองพื้นรองเท้าออกมาได้อีกด้วย
· เทคโนโลยีพื้นรองเท้าด้านนอกสุดล้ำน้ำหนักเบา เพื่อการยึดเกาะได้อย่างดีเยี่ยม ที่มาพร้อมอัปเปอร์ตาข่ายน้ำหนักเบาแบบใหม่ ที่เพิ่มความเบาให้กับรองเท้าคู่นี้ยิ่งขึ้น
สำหรับด้านของการออกแบบ ADIZERO Adios Pro Evo 1 มาในดีไซน์มินิมอล พร้อมวัสดุแบบโปร่งแสง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเบาของรองเท้ารุ่นนี้
นอกจากนี้ รองเท้าวิ่ง ADIZERO Adios Pro Evo 1 ยังถูกพัฒนามาจากข้อมูลเชิงลึกที่อาดิดาสรวบรวมจากการทดสอบนักกีฬาระหว่างการเก็บตัวและทดสอบรองเท้าที่ประเทศเคนยา รวมถึงในแล็บของอาดิดาส สำนักงานใหญ่ ณ เมืองแฮร์ทโซเกินเนารัค ประเทศเยอรมนี โดยนักกีฬาที่ร่วมทดสอบรองเท้ารุ่นนี้ ได้แก่ ปาเรส เจปเชียร์เชียร์ (Pares Jepchirchir) แชมป์โอลิมปิกและผู้ชนะการแข่งขันเมเจอร์มาราธอนสองครั้ง เบนสัน คิปรูโต (Benson Kipruto) ผู้ชนะการแข่งขันเมเจอร์มาราธอนสองครั้ง อมานอล เพทรอส (Amanal Petros) แชมป์ทีมชาติเยอรมัน และทิกิสต์ อัสเซฟา (Tigist Assefa) ผู้ชนะการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอนในปีที่ผ่านมา
ทิกิสต์ อัสเซฟา (Tigist Assefa) ได้พูดถึงรองเท้าวิ่ง Adios Pro Evo 1 ว่า “รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าสำหรับแข่งขันที่เบาที่สุดที่ฉันเคยสวมมา และยังมอบประสบการณ์การวิ่งที่เหนือคำบรรยายอีกด้วย นอกจากนี้ รองเท้าคู่นี้ยังช่วยให้ฉันสามารถโฟกัสกับการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักกีฬาทุกคนมองหา ฉันพร้อมแล้วที่จะรักษาตำแหน่งในเบอร์ลิน มาราธอนครั้งนี้ และแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้ไปยืนที่จุดสตาร์ทอีกครั้ง”
ติดตามการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน 2023 และรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ได้ที่ช่องทางอินสตาแกรม @adidasthailand เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/adidasTH และแฮชแท็ก #ADIZERO #adidasThailand และ @adidasrunning
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.