How to เลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลาก คุ้มค่า ใช้ได้นาน ตอบโจทย์ทุกทริป

ถ้าพูดถึงของคู่ใจสายเที่ยว "กระเป๋าเดินทาง" คงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง! ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้า ของใช้ หรือของกระจุกกระจิก ดังนั้นการมีกระเป๋าเดินทางดีๆสักใบ ก็จะช่วยให้คุณจัดสัมภาระให้พร้อมเดินทางแบบไม่ปวดหัว วันนี้เรามี ทริคปังๆ ที่จะช่วยคุณเลือกกระเป๋าเดินทางให้คุ้มค่า ใช้ทน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แถมเคล็ดลับดูแลกระเป๋าให้สวยทนไปนานๆ มาฝากกันด้วยนะ

• ลืมรหัสกระเป๋าเดินทาง ไม่มีปุ่มรีเซ็ต แก้แบบนี้ง่ายมาก!

 How to เลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลาก

1. เลือกประเภทของกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับคุณ

• พลาสติก (ABS, PC, PP) : แข็งแรง กันกระแทกดี แถมลายเก๋ไก๋ แต่ต้องเลือกแบบที่ไม่หนักเกินไป
• ผ้า : เน้นความ ยืดหยุ่น และสามารถขยายตัวได้ดี ข้อดีของกระเป๋าเดินทางประเภทผ้าคือน้ำหนักเบา ใส่ของได้เยอะ ข้อเสียคือ กันน้ำไม่ค่อยดี และทำความสะอาดยาก
• อลูมิเนียม : แข็งแรงสุด ๆ ทนต่อแรงกระแทกและการเดินทางสมบุกสมบัน ข้อดีของกระเป๋าเดินทางแบบอลูมิเนียม ใช้งานได้นาน ลุคหรูหรา ข้อเสียคือ ราคาสูง และอาจหนักกว่าวัสดุอื่น
• หนัง PU : วัสดุคล้ายหนังแท้ ให้ฟีลวินเทจแบบคลาสสิก ข้อดีของกระเป๋าเดินทางจากหนัง PU ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา และราคาไม่แรง ข้อเสียคือ ไม่ทนต่อแรงกระแทกเท่าแบบอื่น

2. เลือกกระเป๋าเดินทางจากความสะดวกในการใช้งาน

• 2 ล้อ : เหมาะสำหรับคนของน้อย เน้นความคล่องตัว ข้อดีคือลุยได้ทุกพื้นผิว โดยเฉพาะพื้นที่ขรุขระ เช่น ถนนหิน หรือทางเดินขรุขระ ข้อเสียคือต้องใช้แรงดึงและลาก
• 4 ล้อหมุนรอบทิศ : กระเป๋ายอดฮิตสำหรับสายเที่ยวทั่วไป ข้อดีคือล้อหมุนได้ 360 องศา เข็นง่าย ลื่นไหลบนพื้นเรียบ ไม่ต้องออกแรงลากมาก ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับพื้นผิวขรุขระ
• กระเป๋าเดินทางไฟฟ้า : นวัตกรรมสุดล้ำสำหรับนักเดินทางยุคใหม่ ข้อดีของกระเป๋าเดินทางแบบไฟฟ้าคือ นั่งขี่ได้เหมือนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ช่วยผ่อนแรงเดินทางไกล แถมยังใช้เป็นกระเป๋าลากธรรมดาได้ ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง และต้องชาร์จแบต

3. เลือกขนาดกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับทริปของคุณ

• ขนาด 18 นิ้ว – 22 นิ้ว (เหมาะสำหรับทริปสั้น ๆ 2-3 วัน)
  ข้อดี : ขนาดกะทัดรัด พกขึ้นเครื่องได้ ไม่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง

• ขนาด 24 นิ้ว – 26 นิ้ว (เหมาะสำหรับทริปกลาง 4-6 วัน)
  ข้อดี : จุของได้มากขึ้น เหมาะกับการเดินทางที่มีสัมภาระเพิ่ม เช่น เสื้อผ้า ของฝาก ข้อเสีย : ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง

• ขนาด 28 นิ้ว – 30 นิ้ว (เหมาะสำหรับทริปยาว 7-10 วัน หรือการเดินทางที่ต้องใช้ของเยอะ)
  ข้อดี : ขนาดใหญ่ จุสัมภาระครบจบในใบเดียว ข้อเสีย : ต้องโหลดใต้เครื่องและค่อนข้างหนัก

เทคนิคดูแลกระเป๋าเดินทางให้สวย ทน ใช้งานได้นาน

1. ทำความสะอาดเป็นประจำ

• เช็ดทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในกระเป๋าหลังการใช้งาน
• ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะกับวัสดุของกระเป๋า

2. เก็บในที่อากาศถ่ายเท

• หลังใช้งาน ควรเก็บกระเป๋าในที่ที่ไม่อับชื้น และหลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ
• ใช้ผ้าคลุมหรือ Case ป้องกันฝุ่นและรอยขีดข่วน

3. ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน

• ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น Case ใส PVC หรือผ้าคลุม เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง

4. อย่าใส่สัมภาระจนแน่นเกินไป

• การยัดของมากเกินไปอาจทำให้ซิปหรือโครงกระเป๋าเสียหาย

5. ระวังของเหลว

• หากพกของเหลว ควรใส่ในถุงซิปล็อกให้มิดชิด ป้องกันการหกเลอะเทอะ

         ดูแลกระเป๋าของคุณด้วยวิธีเหล่านี้ รับรองว่าสวยปิ๊ง ใช้งานได้แบบยาวๆ ทุกทริป! 

และทั้งหมดนี้ก็เป็น How to เลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลากและ เทคนิคดูแลกระเป๋าเดินทางให้สวย ทน ใช้งานได้นาน ที่เรานำมาฝากกัน ดังนั้นรู้ทริคดีๆ แบบนี้แล้ว ได้เวลาเลือกกระเป๋าคู่ใจ เก็บสัมภาระให้พร้อม แล้วไปลุยทริปในฝันกัน!