"กล้วยดิบ" กินได้ไหม มีประโยชน์หรือผลข้างเคียงกันแน่

กล้วยนั้นอร่อยและกินง่ายมาก ๆ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย คนส่วนใหญ่มักจะกินกล้วยเมื่อสุกงอมและมีสีเหลือง แต่กล้วยดิบสีเขียวนั้นก็กินได้เช่นกัน แม้ว่าบางคนอาจไม่ชอบรสชาติและเนื้อสัมผัสของกล้วยดิบก็ตาม

กล้วยดิบ กับกล้วยสุก ต่างกันอย่างไร?

โดยทั่วไปกล้วยจะถูกเก็บเกี่ยวในขณะที่ยังเขียวอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่สุกเกินไปก่อนที่คุณจะซื้อ ดังนั้น คุณอาจพบกล้วยสีเขียวในซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากสีที่แตกต่างกันแล้ว กล้วยเขียวและกล้วยเหลืองยังแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน

• รสชาติ: กล้วยเขียวมีรสหวานน้อยกว่า และอาจมีรสขมเล็กน้อย
• เนื้อสัมผัส: กล้วยเขียวมีความแข็งกว่ากล้วยเหลือง และบางครั้งอาจมีเนื้อสัมผัสคล้ายขี้ผึ้ง
• องค์ประกอบ: กล้วยเขียวมีแป้งสูงกว่า เมื่อกล้วยสุกและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล
• การปอกเปลือก: กล้วยเขียวยากต่อการปอกเปลือก ในขณะที่กล้วยสุกง่ายต่อการปอกเปลือก
  
  

เมื่อกล้วยสุกองค์ประกอบคาร์โบไฮเดรตจะเปลี่ยนแปลง

กล้วยดิบส่วนใหญ่ประกอบด้วยแป้งซึ่งคิดเป็น 70-80% ของน้ำหนักแห้ง แป้งส่วนใหญ่เป็นแป้งชนิดที่ไม่ย่อยในลำไส้เล็ก จึงมักถูกจัดประเภทเป็นไฟเบอร์ อย่างไรก็ตามกล้วยจะสูญเสียแป้งเมื่อสุก ในระหว่างการสุกแป้งจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลง่ายๆ (ซูโครส กลูโคส และฟรุกโตส) น่าสนใจที่กล้วยสุกมีเพียง 1% ของแป้ง กล้วยดิบยังเป็นนแหล่งที่ดีของเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่พบในผลไม้และช่วยให้ผลไม้คงรูป เพกตินจะสลายตัวเมื่อกล้วยสุกเกินไป ทำให้ผลไม้กลายเป็นนิ่มและเละ แป้งที่ไม่ย่อยและเพกตินในกล้วยเขียวสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีขึ้น และสุขภาพทางเดินอาหารที่ดีขึ้น

กล้วยดิบช่วยให้อิ่มท้องได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง อาหารที่มีไฟเบอร์สูงช่วยเพิ่มปริมาณอาหารในกระเพาะอาหารและส่งเสริมความรู้สึกอิ่ม ทั้งแป้งที่ไม่ย่อยและเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่พบในกล้วยดิบ เชื่อมโยงกับความรู้สึกอิ่มท้องมากขึ้นหลังรับประทานอาหาร ไฟเบอร์เหล่านี้ยังช่วยชะลอการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร ทำให้คุณกินอาหารน้อยลง ซึ่งอาจช่วยลดน้ำหนักได้ หากนั่นเป็นเป้าหมายของคุณ

กล้วยดิบ ช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร

สารอาหารในกล้วยดิบยังอาจมีผลเป็นพรีไบโอติก แทนที่จะถูกย่อยสลายในลำไส้ แป้งที่ไม่ย่อยและเพกตินจะไปเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้ แบคทีเรียจะหมักไฟเบอร์ทั้งสองชนิดนี้ ผลิตกรดไขมันสายสั้นชนิดต่างๆ เช่น บิวทิเรต กรดไขมันสายสั้นอาจช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหารต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่ากรดไขมันสายสั้นช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาในมนุษย์เพิ่มเติม

กล้วยดิบ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ทั้งเพกตินและแป้งที่ไม่ย่อยในกล้วยเขียวอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร กล้วยดิบยังมีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยมีค่า 30 ในขณะที่กล้วยสุกมีค่าประมาณ 60 ดัชนีน้ำตาลในเลือดวัดว่าอาหารชนิดใดเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเร็วเพียงใดหลังรับประทาน ระดับอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 และค่าที่ต่ำกว่าดีต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด

โดยทั่วไป กล้วยดิบถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามมีรายงานออนไลน์บางส่วนเกี่ยวกับผู้ที่รู้สึกไม่สบายหลังจากรับประทานกล้วยดิบ

อาการเหล่านี้อาจรวมถึงอาการทางเดินอาหาร เช่น

• ท้องอืด
• ท้องเฟ้อ
• ท้องผูก

นอกจากนี้ คุณควรระวังหากคุณแพ้ยางธรรมชาติ เพราะกล้วยดิบมีโปรตีนที่คล้ายกับโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในยางธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในผู้ที่แพ้ยางธรรมชาติได้

กล้วยดิบแค่ไหนถึงจะดี?

กล้วยดิบอาจให้สารอาหารและประโยชน์เพิ่มเติมที่กล้วยเหลืองไม่มี พวกมันอุดมไปด้วยแป้งที่ไม่ย่อยและเพกติน ซึ่งช่วยให้อิ่มท้อง ปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่หวานเท่ากล้วยสุก และเนื้อสัมผัสอาจไม่น่ารับประทานเท่าไหร่ หากคุณชอบกล้วยที่นุ่ม ที่น่าสนใจคือ แป้งที่ไม่ย่อยและเพกตินจะค่อยๆ ลดลงเมื่อกล้วยสุก ดังนั้นกล้วยที่เป็นสีเหลืองและมีสีเขียวเล็กน้อยก็ยังคงมีปริมาณเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้กล้วยไม่จำเป็นต้องเขียวทั้งหมดเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์เหล่านี้

• เทคนิคกิน "กล้วยน้ำว้า" ให้สุขภาพดี ไม่อ้วน ไม่เสี่ยงน้ำตาลขึ้น
• เทคนิคกิน "กล้วยน้ำว้า" ให้ได้แคลเซียม 5 เท่า กระดูกพรุน วัยทอง หญิงสูงวัยหายห่วง