10 เชฟมิชลินสตาร์ทั่วโลก เสิร์ฟประสบการณ์สุดพิเศษเมื่อเป็นสมาชิก “The Atlas Club”
คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ QC Special Selection เนรมิตค่ำคืนสุดพิเศษ ให้ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซิฟเมื่อเป็นสมาชิก “The Atlas Club” ในงาน “King Power Presents The Atlas Club Experience with QC Special Selection” สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการ Fine Dining ได้ดื่มด่ำกับรสชาติสุดพิเศษ จากคอนเซ็ปต์ "Aromatic Artistry: A Thai Culinary Symphony on a Global Canvas" โดย 10 เชฟมิชลินสตาร์ระดับโลก รวม 14 ดาว บินตรงร่วมรังสรรค์ 10 สุดยอดเมนูพิเศษ ตอกย้ำความเป็นได้สุด เป็นไปได้ ที่ห้องอาหาร Tenshino Japanese Restaurant, Pullman Bangkok King Power
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการอาหารไทยและวงการอาหารระดับโลก ที่ คิง เพาเวอร์ “The Atlas Club” มอบความเอกซ์คลูซิฟนี้ให้กับสมาชิก “QC Special Selection” เพียง 70 ท่านเท่านั้น! ที่ได้ดื่มด่ำกับมื้อสุดพิเศษกับ 10 เชฟมิชลินสตาร์ที่เดินทางจากหลากหลายมุมโลก รวมทั้งหมด 14 ดาว ได้แก่ เชฟ Jacob Jan Boerma (มิชลิน 3 ดาว) ชาวออสเตรีย, เชฟ Ebbe Vollmer (มิชลิน 2 ดาว) ชาวสวีเดน, เชฟ Stefan Heilemann (มิชลิน 2 ดาว) ชาวเยอรมัน, เชฟหนุ่ม - ธนินธร จันทรวรรณ (มิชลิน 1 ดาว) ชาวไทย, เชฟ Shane Osborn (มิชลิน 1 ดาว) ชาวออสเตรเลีย, เชฟ Ryota Kanesawa (มิชลิน 1 ดาว) ชาวญี่ปุ่น , เชฟ Rubén Arnanz (มิชลิน 1 ดาว) ชาวสเปน, เชฟ Gerard Villaret (มิชลิน 1 ดาว) ชาวสเปน, เชฟ Thavisack Phouthavong (มิชลิน 1 ดาว) จากร้าน 80/20 และ เชฟ Arnaud Dunand Sauthier (มิชลิน 1 ดาว) ชาวฝรั่งเศส เพื่อร่วมกันรังสรรค์ 10 สุดยอดเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Aromatic Artistry: A Thai Culinary Symphony on a Global Canvas” ยกระดับวัตถุดิบไทยผสานกับการรังสรรค์รสชาติจากเชฟระดับเวิลด์คลาสได้อย่างลงตัว สู่มื้ออาหารจานพิเศษระดับสากล ที่ยังคงรสชาติความเป็นไทยไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ คิง เพาเวอร์ ได้เชิญท็อปเชฟระดับมิชลินสตาร์เพื่อร่วมกันรังสรรค์สุดยอดเมนู และได้ร่วมพูดคุยกับเชฟมิชลินสตาร์ นำโดย เชฟหนุ่ม - ธนินธร จันทรวรรณ เชฟชาวไทย การันตีรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ถึง 7 ปีซ้อน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันในครั้งนี้ว่า “ถือเป็นการรวมทีมแห่งมิตรภาพที่เหมือนเป็นการทำอาหารกับเพื่อนที่รู้ใจกันโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเนรมิตอาหารมื้อพิเศษ” โดยเชฟหนุ่มได้นำเสนอเมนู “บ๊ะจ่างไก่” ที่ใช้เวลาในการดรายเอจ (Dry-aged) นานถึง 3 วัน เพื่อให้ได้เนื้อไก่ที่นุ่มที่สุด ตัดกับความกรอบของหนังด้านนอก เสิร์ฟพร้อม “ข้าวก่ำ” หรือข้าวเหนียวดำจากทางภาคเหนือของไทย
สำหรับเชฟ Ebbe Vollmer ได้ครีเอทเมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizer) ด้วยไข่ปลาเทราต์กับผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “ต้องการรังสรรค์เมนูที่มีความอ่อนโยนของรสชาติ เปรียบเหมือน “Spring Kiss” ด้วยการใช้แคนตาลูปจากท้องถิ่น และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการใช้มะกรูดเพื่อให้มีรสชาติในแบบไทย แทนการใช้เลมอน”
ในส่วนของเชฟ Shane Osborn ได้รังสรรค์เมนูลาบในรูปแบบ Plant-based จากธัญพืชบักวีต ผสมกับมะม่วง ราดด้วยซอสน้ำปลาที่ทำขึ้นพิเศษจากสับปะรดหมัก โดยกล่าวถึงเมนูในวันนี้ว่า “การคิดค้นเมนูในค่ำคืนนี้ต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง โดยอยากที่จะลบภาพจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับเมนูที่ทำจากผัก และอยากทำให้คนหันมาสนใจอาหาร Plant-based มากขึ้น”
โดยเชฟ Ryota Kanesawa ได้ครีเอทเมนูซุปจากกุ้งแม่น้ำไทยผสมกับซุปมิโซะขาวในสไตล์เกียวโต โดยกล่าวว่า “เมนูในวันนี้ได้นำกุ้งแม่น้ำมาปรุงในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยเลือกใช้วัตถุดิบไทยอย่างผลส้มซ่า แทนผลส้มยูซุ ทำให้ได้รสชาติที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน”
และเชฟ Rubén Arnanz กับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาวที่อายุน้อยที่สุด กล่าวว่า “วันนี้ได้ครีเอทเมนู “Ode to Thai Vegetables” ด้วยผักไทย 7 ชนิดที่แตกต่างกัน แต่ปรุงรวมกันออกมาเป็นกลิ่น รส และสัมผัสที่ลงตัว โดยใช้เทคนิคการควบคุมอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสความอร่อยได้ทันทีที่อาหารเสิร์ฟถึงโต๊ะ และได้ครีเอทออกมาในกระดาษห่อผูกริบบิ้นอย่างสวยงาม เพราะเชื่อว่าลูกค้านั้นมองหาประสบการณ์ที่แตกต่างมากกว่าแค่ส่วนผสมที่อยู่ในอาหาร”
นอกจากนี้เชฟระดับโลกอีก 5 ท่านได้รังสรรค์เมนูสุดพิเศษ ได้แก่ เชฟ Jacob Jan Boerma กับเมนูสลัดคูสคูส (Couscous) กุ้งกรอบผสมกับเครื่องเทศไทย ถัดมาที่เชฟ Stefan Heilemann กับ Cold Starter เมนู Kampangsan Beef Tartare ต่อด้วยเชฟ Thavisack Phouthavong กับ Cold Starter จากปลาอินทรีย์และหอยนางรม ตามด้วยเชฟ Arnaud Dunand Sauthier กับเมนู Hot Starter จาก Thai Royal Caviar ในน้ำซุปดาชิสไตล์ญี่ปุ่น และปิดท้ายด้วยเชฟ Gerard Villaret กับเมนูของหวาน Nam Dok Mai Mango, Cha Am Lemon, Native Vanilla, Sablé Breton
สำหรับประสบการณ์ดินเนอร์สุดเอกซ์คลูซิฟในค่ำคืนนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ "The Atlas Club" เพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสูงสุด 20% สำหรับทุกการซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา, สิทธิ์ในการเข้าใช้บริการห้องรับรองที่สนามบินภายในประเทศ และกว่า 1,500 แห่งทั่วโลก, สิทธิ์รับบริการ The Atlas Airport Limousine และ Concierge Service, สิทธิ์การรับบริการที่ปรึกษาส่วนตัว The Atlas Personal Shopper และนอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายจาก คิง เพาเวอร์ และพันธมิตรชั้นนำ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิก คิง เพาเวอร์ ได้แล้ววันนี้ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://member.kingpower.com/Privileges/ หรือติดต่อ Contact Centre 1631
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.