จากนักสะสมระดับโลก สู่การประมูลและนิทรรศการศิลปะ “The Collector Club”
เตรียมพบกับ “The Collector Club” การประมูลและนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะครั้งใหม่ของ The Art Auction Center บริษัทประมูลศิลปะอันดับ 1 ของไทย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ The Collector Club สโมสรสุดเอ็กซ์คลูซีฟของผู้ที่รักและหลงใหลในงานศิลปะและการสะสมชมผลงานกว่า 130 ชิ้นจากศิลปินชั้นนำและเลือกงานศิลปะที่สะท้อนตัวตน เพื่อเติมเต็มคอลเลคชันของคุณ
สำรวจ 4 แนวทางสร้างแรงบันดาลใจ
ในการประมูลและนิทรรศการ The Collector Club ผู้เข้าร่วมจะได้สำรวจแนวทางที่แตกต่างกันในการสะสมงานศิลปะ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนักสะสมที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์
- The Visionary Valor: ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวทางการเก็บสะสม ของ คู่สามี ภรรยา นักสะสมชาวอเมริกันที่ชื่อว่า HerbertและDorothy Vogel ทั้งคู่พิสูจน์ให้โลกได้เห็น ว่าการสะสมศิลปะเป็นเรื่องที่ทุกๆคนสามารถเข้าถึงได้ เรื่องศิลปะไม่ใช่เรื่องของเศรษฐีเท่านั้น จากปณิธานความเชื่อที่ถ่อมตน ต่อให้เพียงเงินเล็กน้อยก็สามารถสร้างหนึ่งในคอลเลกชันที่สำคัญที่สุดของโลกได้ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เรา เก็บสะสมรวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัย ที่ตนเองชื่นชอบ ค่อยๆ สะสมตามกำลังของตน วันเวลาล่วงเลยไป งานที่เคยเป็นของศิลปินรุ่นใหม่ ก็อาจกลายเป็นงาน ของศิลปินรุ่นใหญ่ได้ในที่สุด
- The Civilized Cosmopolite: ได้รับแรงบันดาลใจจาก นักธุรกิจคนสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา เช่นตระกูล Rockefeller และ J Paul Getty บุคคลเหล่านี้ไม่เพียงสนับสนุนผลงานศิลปะชั้นครู ที่ตนชื่นชอบเท่านั้น แต่จากความรู้มากมายที่ได้จากการเสาะแสวงหาสมบัติล้ำค่าของโลก พวกเขาได้กลายเป็นเหล่าผู้หลงใหลในเส้นทางประวัติศาสตร์อันอุดมด้วยพหุวัฒนธรรม และอารยธรรม ส่งผลให้ คอลเลคชันของพวกเขามีความหลากหลาย เป็นแหล่งคลังความรู้ รอให้ผู้หลงไหล มาร่วมศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะอันน่าภาคภูมิใจ
- The Legendary Lord: ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของวงการศิลปะโลก House of Medici ตระกูลนักสะสมชื่อดัง ผู้ครองนครฟลอเรนซ์ในอดีต ครอบครัวเมดิชี อุปถัมภ์ศิลปินจำนวนมาก ในหลากหลายรูปแบบ จนสามารถผลักดันให้ฟลอเรนซ์กลายเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนยุคเรเนสซองส์ (Renaissance) หรือช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยศิลปินที่ตระกูลเมดีชีอุปถัมภ์ ได้กลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกที่เรารู้จักมากมาย
-
The Art Amour: ได้รับแรงบันดาลใจจาก Peggy Guggenhiem Collection พิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมืองเวนิส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นบ้านพักส่วนตัวของสตรีชาวอเมริกัน ผู้มีรสนิยม ที่มองการสะสมผลงานศิลปะไม่เป็นเพียงคลังสะสมแต่เปรียบดั่งลมหายใจ ผสมผสานงานศิลปะเข้ากับชีวิต ประจำวันได้กลมกลืน ทุกๆชิ้นได้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ของห้องแล้วห้องเล่า สร้างมนต์เสน่ห์
รื่นรมย์สอดประสานไปกับการใช้ชีวิตของ เจ้าของบ้าน ในแบบที่ ทำให้แขกและอาคันตุกะผู้มาเยือน ตกหลุมรักได้ไม่ยาก
พบกับผลงานชิ้นเอกการประมูลและนิทรรศการ The Collector Club คัดสรรผลงานชั้นยอดกว่า 130 ชิ้น ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน แต่ยังเป็นเครื่องหมายแห่งความพิเศษและคุณค่าในโลกศิลปะ ไฮไลต์ของงาน เช่น
ถวัลย์ ดัชนี "Battle of Mara / มารผจญ" (พ.ศ.2537) สีน้ำมันและทองคำเปลวบนผ้าใบ
“ถวัลย์ได้พัฒนากระบวนการสร้างสรรค์ผลงานไปสู่การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสัญลักษณ์ของสัตว์และมนุษย์ การตีความเรื่องราวความเชื่อทางศาสนาเป็นโครงสร้างหลัก แล้วสื่อสารโดยใช้กระบวนการทางจิตรกรรมเป็นภาษาภาพ ด้วยรูปทรงสัญลักษณ์และตัวละครในรูปแบบเฉพาะตัวของศิลปิน เป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะประเพณีใหม่ที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ผลงาน "มารผจญ" แสดงให้เห็นถึงแนวทางดังกล่าว ด้วยภาพพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าตามแบบพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยอันเป็นประธานของภาพ สื่อถึงความนิ่งสงบไม่หวั่นเกรงต่อเหล่าสัตว์ร้ายที่ก่อกวนอยู่รายรอบ”
กิตติ นารอด "Riding Nude" (พ.ศ.2560) สีอะครีลิคบนผ้าใบ
“ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นแรก ๆ ที่ศิลปินได้ใส่ตัวละครมนุษย์ลงไปบนผืนผ้าใบ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นภาพจำที่จุดประกายชื่อเสียงให้แก่ศิลปิน ม้าหลายตัวที่เราเห็นในผลงานล้วนแต่มีลวดลาย สี ทรวดทรงที่หลากหลายและเป็นปัจเจก บ้างก็มุ่งหน้าไปตามทางเดียวกัน บ้างก็สวนทางสลับกันไป สะท้อนวิถีทางของสังคมมนุษย์ อีกหนึ่งความน่าสนใจที่เด่นชัดอยู่ในผลงานของกิตติก็คือ การให้ความสำคัญกับข้อความที่ส่งผ่านออกมาและอารมณ์มวลรวมของผลงาน มากกว่าความถูกต้องสมจริงตามหลักกายวิภาค สะท้อนถึงสไตล์ที่ไม่เหมือนใครของกิตติ ที่นำผู้ชมเข้าสู่โลกที่ความเป็นจริงและจินตนาการผสานผสมกันอย่างลงตัว”
จ่าง แซ่ตั้ง "ตรอกในสวน" (พ.ศ.2529) สีโปสเตอร์บนกระดาษ
“ทิวทัศน์คลองละแวกบ้านที่คุ้นตา ถูกรังสรรค์ออกมาผ่านการตวัดแปรงเขียนสไตล์อิมเพรสชันนิสม์ ผลงานภาพนี้อยู่ในช่วงยุคที่ จ่าง แซ่ตั้ง ได้ออกไปเก็บภาพความธรรมดาของชุมชน ทิวทัศน์บ้านเรือนแบบตะวันออกที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความเฉพาะตัวของศิลปินเป็นผลงานกึ่งนามธรรม ก่อนที่ต่อมา จ่าง จะได้รับการยอมรับในฝีมือและมีชื่อเสียงจนผลงานได้เข้าไป อยู่ในคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก”
จักรพันธุ์ โปษยกฤต "Nude / สุภาพสตรีเปลือย" (พ.ศ.2504) สีชอล์กพาสเทลบนกระดาษ
“ภาพผลงานสีชอล์กชิ้นแรก ๆ ของ จักรพันธุ์ โปษยกฤต ที่พาเราหมุนย้อนทวนเข็มเวลาภาพนี้ เชิญชวนให้ผู้ชมได้มาพบกับหญิงสาวที่งดงามราวกับว่าหลุดออกมาจากปกรณัม อรชรอ่อนหวาน ตามอุดมคติสรรค์สร้าง ศิลปินได้บรรจงเขียนสตรีในภาพขึ้นมาจากห้วงอารมณ์แห่งการแสวงหาความแปลกใหม่ การท้าทายแหวกออกจากขนบวิถีปฏิบัติเดิม ภาพเปลือยฝีมือจักรพันธุ์ที่หาชมได้ยากนี้ เกิดจากความพยายามที่จะทดลองค้นหาแนวทางที่กลายขีดจำกัดเดิม ให้เชี่ยวชาญในทุกศาสตร์ทุกแขนง”
ประกิต (จิตร) บัวบุศย์ "Our Camp - Yamanaga" (ราวปี พ.ศ.2480) สีน้ำมันบนกระดาน
“ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางไฟสงครามโลกครั้งที่สองที่ลุกโชนอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย จิตร นักเรียนทุนผู้กำลังศึกษาต่อที่สถาบันวิจิตรศิลป์ กรุงโตเกียว (Tokyo Academy of Fine Arts) ประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและเสียงครวญร้องของความทุกข์โศกจากการสูญเสีย เฝ้ารอความตายที่คืบคลานเข้ามา โดยไม่สามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอนได้ เมื่อความอดอยากเข้ากลืนกิน ความเหน็บหนาวแวะเวียนมาและไม่ยอมจากไป ขาตั้งไม้วาดรูปหรือแม้แต่ภาพวาดสีน้ำมันก็ต่างถูกนำไปเผาฟืนปันความอบอุ่นน้อยนิดให้แก่ร่างกาย ประจักษ์หลักฐานภาพชิ้นนี้จึงถือเป็นผลงานหายาก ชิ้นสำคัญที่คงเหลือรอดกลับมาให้แก่คนรุ่นหลัง”
สมโภชน์ อุปอินทร์ "Vietnamese Lady" (พ.ศ.2505) สีน้ำมันบนผ้าใบ
“รูปแบบงานจิตรกรรมอันเป็นภาพจำของสมโภชน์นั้นได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแนวกึ่งนามธรรม นามธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวบิสม์ ต่างจากในภาพเหมือนของหญิงสาวชาวเวียดนาม ที่สมโภชน์เขียนออกมาได้อย่างนุ่มนวลละมุนตาภาพนี้ รสมือในการเลือกหยิบใช้คู่สีที่ไม่เหมือนใครแต่สามารถคุมโทนและน้ำหนักของงานให้ออกมาได้อย่างลงตัวของศิลปินยังคงปรากฏให้เห็นในงาน นับว่าเป็นผลงานภาพเหมือนบุคคลจำนวนน้อยที่หาชมได้ยาก”
ประเทือง เอมเจริญ "Universe" / (พ.ศ.2512) สีน้ำมันบนผ้าใบ
“ลายเซ็นแบบดั้งเดิมรูปดวงอาทิตย์ที่ปรากฏให้เห็นได้ในผลงานชุดแรก ๆ ในตอนที่ศิลปินออกเดินทาง ไปหาแรงบันดาลใจนอกบ้านแล้วพลันได้เห็นแสงอาทิตย์หลากสีสันที่สาดส่องลงมาอย่างงดงาม มอบพลังบันดาลการสร้างสรรค์ให้กับเขาอย่างมากมาย ประเทืองใส่ชีวิตลงไปในงาน มอบความงามผ่านมุมมองที่เขาเห็นผ่านดวงตา ที่แม้แต่แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้าก็ไม่อาจหยุดเขาจากความหลงใหลที่มีให้กับธรรมชาติ”
ถวัลย์ ดัชนี "The Dhammapada" ปากกาลูกลื่นบนกระดาษ
“ "ธรรมบท" นับได้ว่าเป็นหัวใจหลักที่สรุปคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างครอบคลุมที่สุด แสดงธรรมในรูปแบบของการเปรียบเทียบอุปมาอุปไมย ผลงานแสดงให้เห็นร่างทั้งร่างที่ถูกอัดแน่นอยู่ในภาพ ประหนึ่งถูกบีบอัดอยู่ในกรอบของความคิด มวลกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งแสดงการขัดขืนจากความคิดทางลบที่พร้อมจะบิดเบือนไปสู่ตัณหาโดยใช้หัวสัตว์เป็นภาพแทน ความฉับไวในผลงานเป็นการย้ำเตือนให้เห็นถึงความพยายามในการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความชั่ว เพราะหากเรายิ่งเฉื่อยชา จิตก็จะชินชาและกลืนหายไปในความชั่วนั้น”
ถวัลย์ ดัชนี "ฉลูวิลาสพิฆาตไพรี" สีน้ำมันบนผ้าใบ
“สีดำ สีแดง และสีขาว มักเป็นสีที่ถวัลย์สลับใช้ไปมาในการสร้างสรรค์ผลงาน แต่สำหรับผลงานชิ้นนี้มีความพิเศษที่เป็นการใช้สีทั้ง 3 สร้าง "ฉลูวิลาสพิฆาตไพรี” ผลงานที่แสดงภาพฉลูร่างกำยำ มวลกล้ามเนื้อที่เกิดจากการปาดป้ายสะบัดแปรงสร้างพลัง เสมือนภาพยังคงเคลื่อนไหวอยู่”
นที อุตฤทธิ์ "Parrhasius White Painting" (พ.ศ.2550) สีน้ำมันบนผ้าใบ
“พื้นผิวกระดาษที่นาบเนียนหลอกตาอยู่บนผืนผ้าใบ เป็นภาพเขียนที่ได้หยิบเอาแรงบันดาลใจจากตำนานสมัยกรีกโบราณของ Parrhasius จิตรกรผู้วาดเลียนแบบความจริงด้วยการลวงตา โดย นที เล่นกับแนวคิดการรับรู้ สัมผัสทางตาและภาพมายาลวง อีกทั้งยังกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดการเชื่อมโยงจินตนาการกับภาพความจริงว่า การปรากฏอยู่ของภาพนั้นมีอยู่ทั้งในเชิงกายภาพตลอดจนปรากฏรูปขึ้นในความรู้สึกลึกลงไปในจิตใต้สำนึกและความทรงจํา”
มือบอญ "Retro Voyage" (พ.ศ.2566) สีอะครีลิค สีกวอช และสเปรย์บนผ้าลินิน
“ผลงานเชิญชวนให้เดินทางผจญภัยสู่ห้วงอวกาศที่ไม่มีใครรู้จัก ที่ซึ่งผืนผ้าใบของท้องฟ้าทอดยาวไปไกลเกินกว่าจินตนาการ อันเผยให้เห็นถึงความกว้างใหญ่ ซับซ้อน และสวยงามของจักรวาล การเปิดรับความหลากหลายเป็นการท้าทายต่ออุปาทานหรืออคติ เชื้อเชิญให้ชื่นชมและเคารพในทุกมุมมอง ดื่มด่ำลงไปในสเปกตรัมที่หลากหลายของมนุษย์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โอบกอดรับสีสันของเพศที่แตกต่างและรับฟังการประสานเสียงของวัฒนธรรมที่เสริมสร้างการดำรงอยู่ร่วมกัน ยอมรับและเปิดรับในสิ่งที่ไม่รู้จัก เริ่มต้นการเดินทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของความเข้าใจ การเห็นอกเห็นใจ และการเติบโตร่วมกัน ขับเคลื่อนเราไปสู่อนาคตที่ซึ่งการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพและการเห็นคุณค่าในทุกสิ่งที่จะเติบโต การมีส่วนร่วมกับผู้คนจาก เชื้อชาติ วัฒนธรรม และความเชื่อที่แตกต่างกันทำให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความกว้างใหญ่และงดงามของครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งที่เรียกว่า มนุษย์”
สุเชาว์ ศิษย์คเณศ "The Field / ทุ่งนา" สีน้ำมันบนผ้าใบ
“ความแร้นแค้น บรรยากาศอึมครึม หดหู่เศร้าสร้อย นับเป็นวัสดุชั้นดีที่สุเชาว์ใช้ปาดป้ายลงบนภาพวาด ชั้นสีหนาอันเป็นเอกลักษณ์ที่เขามักถ่ายทอดความทุกข์ยากที่ประสบพบเจอในช่วงชีวิตผ่านลงไปในผลงาน แต่กลับกันในผลงานภาพนี้เราได้เห็นโทนสีละมุนตา ภาพท้องนาที่ดูสงบเย็น เสมือนเป็นตัวแทนความสุข เพียงน้อยนิดในชีวิตอันแสนเศร้าของสุเชาว์”
ทั้งยังมีผลงานของ วันดา ใจมา "Inheritance" (พ.ศ.2561) สีน้ำมันบนผ้าใบ, แม๊กกี้ - ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ "Self-Indulgence" (พ.ศ.2565) สีอะครีลิคบนผ้าใบ, อเล็กซ์ เฟส - พัชรพล แตงรื่น "Untitled" (พ.ศ.2560) สีน้ำมัน สีอะครีลิค และสเปรย์บนผ้าลินิน, ชาติชาย ปุยเปีย "Untitled" สีน้ำมัน สีอะครีลิค ขี้ผึ้ง และทองคำเปลวบนผ้าใบ เป็นต้น
เข้าร่วมคลับเพื่อรับประสบการณ์สุดพิเศษ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมผู้ช่ำชองหรือเป็นมือใหม่ในโลกศิลปะ การประมูลและนิทรรศการครั้งนี้จะมอบแรงบันดาลใจและทำให้คุณได้รับประสบการณ์อันน่าจดจำ
นิทรรศการแสดงผลงาน The Collector Club เปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 เวลา 10.00 -19.00 น. ที่ JWD Art Space การประมูลจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 เริ่มลงทะเบียนเข้าร่วมงานประมูล เวลา 10.00-13.00 น. และเริ่มการประมูลเวลา 14.00 น. ที่ JWD Art Space
The Collector Club ยินดีต้อนรับนักสะสมและผู้ชื่นชอบงานศิลปะ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสโมสรสุดพิเศษ เพื่อสำรวจผลงานชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน และเลือกงานศิลปะเพื่อเติมเต็มคอลเลกชัน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.